ปวดหัวอาจเป็นปัญหาที่ใครหลายคนกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งแต่ละคนจะมีสาเหตุของการปวดหัวที่แตกต่างกัน บางคนอาจโดนแดดมาก ๆ แล้วปวดหัว บางคนอาจปวดหัวเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่หากอาการปวดหัวไม่ได้มาจากความเครียด หรือไม่มีสาเหตุของการเกิด โดยจะมีอาการปวดหัวบ่อย และรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนมีอาการอย่างอื่นตามมา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายของ “โรคเนื้องอกในสมอง” ที่หากไม่ได้รับการรักษาอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งสมองได้
เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) เป็นโรคที่เกิดจากเนื้อเยื่อในสมอง หรือเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงสมองมีการเจริญเติบโตผิดปกติจนมีผลต่อระบบสมอง และระบบประสาททำให้ร่างกายมีอาการต่าง ๆ ตามมา ซึ่งเนื้องอกที่เจริญผิดปกตินั้นจะไปเบียดเนื้อสมอง และกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายที่มีสมองเป็นตัวควบคุม โดยเนื้องอกที่เกิดขึ้นในสมองอาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป
นอกจากนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ยังมีประวัติบุคคลในครอบครัวเคยเป็นเนื้องอกในสมอง และอาจมีสาเหตุจากรังสีอันตรายที่เกิดจากการทำงาน หรือได้รับจากในชีวิตประจำวัน เช่น รังสีจากการฉายแสงตรวจ หรือรังสีจากระเบิดปรมาณู เป็นต้น
เมื่อเกิดเนื้องอกขึ้นในสมอง และมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื้องอกจะไปเบียด หรือทำลายเนื้อสมองที่มีพื้นที่จำกัด ทำให้กะโหลกศีรษะมีความดันสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยปวดศีรษะอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงตื่นนอน หรือช่วงเวลากลางคืน ผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีอาการมากกว่า 15 วันต่อเดือน อย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน แม้จะรับประทานยาแก้ปวดจะไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ จะมีอาการปวดศีรษะอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีอาการอาเจียน แขนขาอ่อนแรง ใบหน้าเบี้ยว ท่าทางการเคลื่อนไหวผิดปกติ หรืออาจมีอาการชักร่วมด้วย
แพทย์จะทำการซักถามประวัติผู้ป่วย ตรวจร่างกาย และทดสอบทางประสาทวิทยา เช่น ตรวจการมองเห็น ตรวจการทรงตัว ตรวจปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกาย รวมถึงตรวจความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หากแพทย์ประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองต้องตรวจด้วยเครื่อง CT SCAN เพื่อยืนยันผลการวินิจฉัย ซึ่งจะทำให้แพทย์เห็นถึงความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสมอง เช่น ภาวะเลือดออกในสมอง เส้นเลือดในสมองทั้งอุดตันและเส้นเลือดแตก การติดเชื้อ หรืออักเสบของเนื้อเยื่อ เนื้องอก มะเร็ง กระดูกแตกร้าว เป็นต้น
โรคเนื้องอกในสมองเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นทุกเพศ ทุกวัย โดยอาการที่เป็นสัญญาณของโรคนี้คือ “การปวดศีรษะบ่อย ๆ” ดังนั้นเราไม่ควรละเลยต่ออาการของตนเอง หากพบความผิดปกติควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงในอนาคต
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ตรวจหาความผิดปกติโรคทางสมอง ด้วยการตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI