หลอดลมอักเสบ (Bronchitis) เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม ทำให้เยื่อบุหลอดลมบวม และมีเสมหะที่หลอดลม ส่งผลให้มีอาการไอ มีเสมหะ หายใจลำบาก เจ็บคอ แสบคอ หรือเจ็บหน้าอก มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว สามารถพบผู้ติดเชื้อได้ทุกช่วงวัย
โรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน (Acute Bronchitis) มักเกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนไข้หวัด จึงเกิดการติดเชื้อลามลงไปถึงหลอดลม ผู้ป่วยโรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน มักจะมีอาการเป็นหวัด และไอมีเสมหะเป็นระยะเวลามากกว่า 1 สัปดาห์
โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง (Chronic Bronchitis) อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ โรคหืด รวมถึงการสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานาน หรือสัมผัสกับมลภาวะ เช่น ฝุ่น ควัน ผู้ป่วยโรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายขึ้น เสมหะอาจจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือสีเขียว
โรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน มักจะหายได้เอง ภายใน 7-10 วัน ถ้าปฏิบัติตนถูกต้อง
โรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน
หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลง ได้แก่
โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง
หลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เช่น
โรคหลอดลมอักเสบ หากได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อน การติดเชื้อจากหลอดลมอาจลามไปที่ปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบ (Pneumonia) และโรคถุงลมโป่งพองได้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง