โรคอุจจาระร่วง ไม่ใช่แค่ท้องเสีย
โรคอุจจาระร่วง ไม่ใช่แค่ท้องเสีย

การขับถ่ายเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความใส่ใจ โดยเฉพาะการขับถ่ายของเสียที่ต้องฝึกให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย หากเกิดความผิดปกติขึ้นกับระบบขับถ่ายย่อมส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราทันที โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับ “อุจจาระร่วง”

 

โรคอุจจาระร่วงคือ

 

"อุจจาระร่วง" (Diarrhoeal Diseases) คือภาวะที่ทำให้คนเราเกิดการถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำอย่างผิดปกติตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 1 วัน หรือมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นมูก หรือเลือดแม้เพียงครั้งเดียว โดยโรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย ปรสิต โปรโตซัว หรือพยาธิในลำไส้ที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร และน้ำดื่มที่ไม่สะอาด รวมถึงการไม่ล้างมือก่อนการรับประทานอาหาร และการใส่อาหารในภาชนะที่ไม่สะอาดอีกด้วย

 

อาการของโรคอุจจาระ

 

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงจะมีอาการถ่ายเหลว 3 ครั้งขึ้นไป คลื่นไส้ อาเจียนบ่อย รับประทานอาหารไม่ได้ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และกระหายน้ำมากกว่าปกติ หากมีอาการมากกว่า 2 วัน มีไข้สูง หรือมีอาการปวดท้องรุนแรงควรรีบเข้าพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเป็นโรคเรื้อรัง และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้

โดยอาการอุจจาระร่วงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

  • อุจจาระร่วงเฉียบพลัน มีอาการอุจจาระร่วงน้อยกว่า 7 วัน มักเกิดจากโรคทางกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบเนื่องจากการติดเชื้อไวรัส
  • อุจจาระร่วงเรื้อรัง อาการท้องเสียที่เกิดขึ้นติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น  โรคลำไส้อักเสบ โรคลำไส้แปรปรวน โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ เป็นต้น

 

การรักษาโรคอุจจาระร่วง

 

ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะสามารถหายเองได้ภายใน 6 วัน ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และดื่มเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำที่เสียออกไปจากร่างกาย โดยการละลายผง ORS (Oral Rehydration Salts) ในน้ำสะอาด เช่น น้ำต้มสุกที่ทิ้งไว้ให้เย็นแล้ว และคอยสังเกตดูสีปัสสาวะ หากมีสีเข้มแสดงว่ายังได้น้ำไม่เพียงพอควรพยายามดื่มน้ำเกลือแร่เพิ่มขึ้นอีก แต่หากมีอาการรุนแรง โดยเกิดภาวะช็อก หรือหมดสติควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที

 

โรคอุจจาระร่วง

 

วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคอุจจาระร่วง

 

  • รับประทานอาหารที่สามารถย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ปลาต้ม หรือเนื้อสัตว์ต้มเปื่อย
  • ดื่มน้ำเกลือแร่ หรือผงละลายน้ำเกลือแร่ ORS (Oral Rehydration Salts)
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้ลำไส้เก็บเชื้อโรคเอาไว้เป็นเวลานาน
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

 

การป้องกันโรคอุจจาระร่วง

 

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การรักษาสุขอนามัยทั้งในการรับประทานอาหาร การเก็บอาหาร และการปรุงอาหาร ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หรือจับสิ่งของอื่น ๆ ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการวางอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง เพราะแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดี ควรเก็บอาหารในตู้เย็น หมั่นทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารทุกครั้ง และเลือกน้ำสะอาดไว้ปรุงอาหาร หรือไว้ดื่มกิน

 

โรคอุจจาระร่วงเป็นโรคที่มักจะเกิดจากการอุปโภคบริโภคที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรตระหนักถึงเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง

_____________________________________

แหล่งข้อมูลอ้างอิง