รับประทานอิ่มแล้วนอน สบายตอนนี้ปัญหาสุขภาพมาเยือนในอนาคต  
รับประทานอิ่มแล้วนอน สบายตอนนี้ปัญหาสุขภาพมาเยือนในอนาคต  

วิถีชีวิตในปัจจุบันโดยเฉพาะผู้คนในสังคมเมืองจะมีความเร่งรีบกันอยู่พอสมควร บางท่านอาจจะเลิกงานดึก เด็กในวัยเรียนอ่านหนังสือทบทวนความรู้ เกิดหิวในช่วงกลางคืนและรับประทานอาหารแล้วเข้านอนทันที ซึ่งการได้ลิ้มรสชาติของอร่อย เอนกายลงบนเตียงนุ่ม ๆ เป็นอะไรที่สบาย ผ่อนคลาย หายเครียดกับเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน แต่พฤติกรรมนี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทั้งการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน

 

 

รับประทานอิ่มแล้วนอนอ้วนไหม

 

ปกติตามธรรมชาติการเผาผลาญพลังงานในร่างกายหากทำให้มีประสิทธิภาพจะต้องออกกำลังกาย เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ ใช้แรงเยอะ ดังนั้นในเวลานอนหลับจะทำให้อัตราการเบิร์นลดน้อยลง เมื่อรับประทานอาหารแล้วเข้านอนทันที อวัยวะที่ย่อยอาหารทำงานแล้วไม่ได้นำไปใช้ สามารถเกิดการสะสมไขมันในร่างกายจนเกิดภาวะอ้วนหรือน้ำหนักขึ้นได้ ทั้งนี้หากได้รับอาหารในปริมาณเยอะจนเกินไป ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ

 

 

กินแล้วนอนอ้วน

 

 

รับประทานอิ่มแล้วนอนกับโรคกรดไหลย้อน

 

การกลืนปกติแล้วกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนที่เชื่อมต่อกับกระเพาะจะเปิด อาหารจะเคลื่อนผ่านลงสู่กระเพาะ หลังจากนั้นจะปิดอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เกิดการไหลย้อนของกรดในปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเข้าสู่หลอดอาหาร เพื่อทำการย่อยก่อนเข้าสู่ลำไส้เล็ก แต่ถ้าหูรูดเสื่อมผิดปกติ จะเกิดแรงดันทำให้อาเจียน แสบร้อนกลางอก เนื่องจากน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาถึงลำคอ การรับประทานเสร็จแล้วนอนทันทีจะเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนขึ้น สังเกตได้เมื่อตื่นนอนขึ้นมา จะมีอาการเจ็บคอเรื้อรัง เสียงแหบขึ้น

 

 

กรดไหลย้อน

 

 

รับประทานอิ่มแล้วนอนกับโรคมะเร็งหลอดอาหาร

 

สืบเนื่องมาจากสาเหตุและอาการของโรคกรดไหลย้อน เมื่อรุนแรงขึ้นหลอดอาหารจะเป็นแผล อักเสบ ตีบ เพราะว่าลักษณะของมันไม่ได้มีความหนาเหมือนกระเพาะ ร่างกายจึงปรับตัวโดยการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ทดแทนอันที่โดนกรด การแบ่งเซลล์จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หากร่างกายกำจัดเซลล์ผิดปกติที่หลุดลอกออกมาเยอะนี้ไม่ได้ จะกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายในที่สุด

 

 

กินแล้วนอน

 

 

รับประทานอิ่มแล้วเมื่อไหร่ถึงนอนได้

 

เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วควรรอ 2-3 ชั่วโมง ถึงจะล้มตัวลงนอนราบได้ หากได้รับปริมาณอาหารเยอะเกินไปโดยเฉพาะบุฟเฟต์ จะต้องใช้เวลามากกว่านั้น เพื่อให้อวัยวะในระบบย่อยอาหารไหลลำเลียงเข้าสู่ลำไส้เล็กเรียบร้อยก่อน จะสามารถป้องกันความผิดปกติของร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็น กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก รวมทั้งยังเสริมสร้างการนอนหลับให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

แสบคอ เสียงแหบหลังตื่นนอน

 

 

พฤติกรรมลดความเสี่ยงโรคในระบบย่อยอาหาร

 

สิ่งที่ควรทำ

 

  • รับประทานอาหารปริมาณน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง

 

  • รับประทานมื้อเย็นให้เร็วขึ้น

 

  • ควบคุมน้ำหนักตัว

 

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

  • สวมเสื้อผ้าขนาดพอดีกับร่างกาย

 

หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้

 

  • อาหารรสจัด

 

  • ดื่มน้ำระหว่างรับประทานอาหาร

 

  • ส่วนประกอบของน้ำตาล ไขมัน โซเดียม ที่มีปริมาณสูง

 

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน

 

  • การสูบบุหรี่

 

 

ท่านใดที่ปรับพฤติกรรม ลดละเลิกสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงต่าง ๆ รวมทั้งการรับประทานอาหารอิ่มแล้วนอนทันที แต่อาการกรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก ยังไม่บรรเทาลง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและทำการรักษา ไม่ควรซื้อยามาใช้เองโดยพลการเด็ดขาด



 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหารและตับ

 

โปรแกรมส่องกล้องโรคระบบทางเดินอาหารและลำไส้

 

แสบร้อนกลางอก อาการของโรคกรดไหลย้อน