โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Herniated Disc) เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย นอกจากจะมาจากการเสื่อมสภาพของอวัยวะในส่วนนั้นเองแล้ว ยังสามารถเสื่อมจากกิจวัตร หรือกิจกรรมในแต่ละวันที่ส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังของเรา ถึงแม้โรคนี้จะสามารถรักษาได้ด้วยการทานยา และดูแลร่างกายให้ดียิ่งขึ้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจเสี่ยงเรื้อรังจนต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แน่นอนว่าคงไม่มีใครต้องการจะเป็นโรคที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังแบบนี้ การระมัดระวังตนเองจึงสำคัญไม่ว่าจะเป็นท่านั่งที่นานเกินไป หรือการออกแรงผ่านหลังอย่างรุนแรงหรือเฉียบพลันล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งนั้น
กระดูกสันหลังจะคงอยู่ได้ตามปกติต้องพึ่งการรองจากหมอนรองกระดูก ร่วมกันกับข้อต่อ กระดูกสันหลังหลายชิ้นที่เรียงต่อกันนั้นมีหน้าที่ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับไขสันหลัง ส่วนหมอนรองกระดูกนั้นจะทำหน้าที่ช่วยเหลือกระดูกสันหลังอีกทีหนึ่ง ด้วยการช่วยให้กระดูกสันหลังมีความยืดหยุ่น และสามารถรับแรงกระแทกจากการเคลื่อนไหวของร่างกายได้นั่นเอง
เราคงได้รู้แล้วว่าหมอนรองกระดูกมีความสำคัญกับร่างกายมากแค่ไหน เมื่อหมอนรองกระดูกเกิดความเสียหาย หรือเริ่มเสื่อมถอยไปตามวัยจะส่งผลให้หมอนรองกระดูกค่อย ๆ ด้อยประสิทธิภาพลง และเริ่มสั้นลง จนเริ่มเกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหมอนรองกระดูก หากเป็นเช่นนี้จะทำให้แกนของหมอนรองกระดูกหลุด แตก หรือปลิ้นออกจากจุดเดิม และไปกดทับเส้นประสาทของไขสันหลังได้ในที่สุด ส่วนปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกมีอยู่หลายปัจจัย ได้แก่
นอกจากนี้ยังสามารถเกิดอาการหมอนรองกระดูกแตกอย่างเฉียบพลันได้ด้วย จากการเคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะบิด หรือเอี้ยวตัวอย่างรวดเร็ว และมากจนเกินไป เช่น นักกอล์ฟ เป็นต้น โดยโรคนี้มักจะเกิดขึ้นให้เห็นกันบ่อยที่บริเวณเอว และคอ
แต่หลายคนอาจสับสนว่าอาการปวดหลังของตนเองนั้นจะเป็นโรคร้ายนี้หรือไม่ โดยปกติแล้วการปวดหลังนั้นมักจะมาจากการปวดกล้ามเนื้อที่ใช้งานมากจนเกินไปเฉย ๆ แต่อาการปวดของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะลึกกว่ามาก คือให้จับสังเกตว่าจะกดหลังแล้วไม่ปวด แต่ถ้ากดโดนเส้นประสาทหลังจะมีอาการปวดอย่างรุนแรง
แพทย์จะทำการซักถามประวัติของอาการปวด เช่น ปวดบริเวณไหน ปวดมากแค่ไหน ปวดเมื่อทำกิจกรรมใด และปวดเวลาใดบ้าง เป็นต้น หากวินิจฉัยแล้วว่าไม่ใช่อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์จะจ่ายยาให้ทาน แต่ถ้าหากทานยาแล้วยังไม่หาย หรืออาการปวดเริ่มลุกลามไปจนถึงขา นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการสแกนด้วย CT Scan ต่อไป
การรักษาโรคนี้จะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะความหนักเบาของอาการผู้ป่วย ซึ่งมีทั้งการรักษาแบบทั่วไป และการรักษาแบบผ่าตัด
การดูแลร่างกาย โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวที่ใช้หลังถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้หมอนรองกระดูกของเราไม่เสื่อมเสียหายก่อนวัยอันควร ได้แก่
ปัญหาของกระดูกสันหลังส่งผลร้ายแรงต่อร่างกาย หากปล่อยทิ้งไว้จะยิ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ การไม่ระมัดระวังในการทำกิจกรรมหลายกิจกรรมจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ดังนั้นเราจึงควรคำนึงอยู่ตลอดว่าเรามีความเสี่ยงมากแค่ไหน และสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งใดได้บ้างเพื่อลดความเสี่ยงนั้น