คลินิกอายุรกรรม
คลินิกอายุรกรรม คลินิกที่รวมโรคร้ายไว้มากที่สุด

อายุรกรรม คือ

 

คลินิกดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ต้องใช้ยารักษาเป็นหลัก โรคทางอายุรกรรมถูกจัดออกเป็นหลายประเภทตามอวัยวะในร่างกาย เช่น โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าทุกอวัยวะในร่างกายเรามีโอกาสเกิดโรคได้แทบจะทั้งนั้น บางโรคที่รุนแรงอาจไม่ปรากฏอาการในช่วงแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาโรคที่เราเป็นอยู่ไม่ว่าอาการของโรคจะมากหรือน้อยก็ตาม

 

บริการทางการแพทย์

 

  • ตรวจและรักษาโรคในอายุรกรรม เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต วัณโรค เป็นต้น

  • ให้คำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับโรคทางอายุรกรรมและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง

 

อายุรกรรม

 

โรคที่สำคัญในอายุรกรรม

 

  • โรคหัวใจ คือโรคที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ โดยมักเกิดความผิดปกติกับเส้นเลือด หรืออาจมีความผิดปกติมาแต่กำเนิด โดยสามารถจำแนกออกได้หลายชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจวาย เป็นต้น สาเหตุของโรคเกิดได้หลายปัจจัย เช่น น้ำหนักเกินมาตรฐาน ความเครียด อีกทั้งยังสามารถสืบทอดผ่านทางพันธุกรรมได้ด้วย สามารถป้องกันได้ด้วยการหันมาดูแลสุขภาพหมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ 

 

  • โรคเบาหวาน โรคนี้เกิดจากพฤติกรรมการไม่ดูแลตัวเอง และสามารถเกิดจากพันธุกรรมได้ โดยมีสาเหตุมาจากน้ำตาลในเลือดมีปริมาณสูง ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานอาจมีภาวะอื่นแทรกซ้อน เช่น ภาวะเบาหวานขึ้นตามีผลร้ายแรงถึงขั้นทำให้สูญเสียการมองเห็น การป้องกันโรคเบาหวานสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานของที่มีประโยชน์ เป็นต้น

 

  • โรคไต คือโรคที่ไตเกิดการทำงานขัดข้องทำให้การขับของเสีย และสมดุลของเกลือแร่และน้ำในร่างกายไม่สมดุล ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่าย คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ สาเหตุของโรคนี้เกิดจากไตมีเนื้องอก เกิดการติดเชื้อในไต เกิดการอักเสบในไต ทานอาหารรสหวาน เค็ม และมีมันมากเกินไป โรคนี้สามารถรักษาได้โดยการเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และแนะนำวิธีการรักษาสภาพไตต่อไป

 

  • โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดไวรัสและส่งผลต่อระบบหายใจ และปอด ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนเป็นไข้ธรรมดาแต่มีอาการไข้และอ่อนเพลียมากกว่า อีกทั้งยังสามารถมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ การรักษาสามารถทำได้โดยการพบแพทย์เพื่อรับยาและพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรงมากขึ้นควรให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

 

  • โรคข้อและโรครูมาติสซั่ม รูปแบบที่พบมากที่สุด คือ โรคข้อเสื่อม เกิดจากอาการบาดเจ็บ หรือการอักเสบของข้อกระดูกที่เกิดจากความทรุดโทรมที่หุ้มข้อกระดูกค่อย ๆ หายไป ทำให้ข้อกระดูกเสียดสีกันเวลาเคลื่อนไหว โดยจะมีอาการหลัก ๆ คือ ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดบริเวณข้อต่อของกระดูก มีอาการบวมแดง และเคลื่อนไหวลำบาก ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคข้อให้หายขาดได้ จึงรักษาโดยการรับประทานยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ นอกจากนี้การรับประทานอาหารยังมีส่วนช่วยในการรักษา เช่น ข้าวกล้อง แป้งไม่ขัดขาว และผักใบเขียวต่าง ๆ