กรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) เป็นโรคระบบทางเดินปัสสาวะ ที่อาจจะเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แต่จะพบโรคนี้ได้จากผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย กรวยไตอักเสบอาจจะเป็นโรคแทรกซ้อนของโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากปล่อยอาการไว้จะทำให้เป็นโรคไตวายเรื้อรังได้
กรวยไตอักเสบ คือ การติดเชื้อแบคทีเรียในกรวยไต โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียอีโคไลเป็นเชื้อที่พบบ่อย โดยแบ่งได้เป็นสองชนิด คือกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute Pyelonephritis) และ กรวยไตอักเสบเรื้อรัง (Chronic Pyelonephritis)
กรวยไตมีลักษณะเป็นโพรง ต่อกับท่อไต มีหน้าที่รองรับน้ำปัสสาวะ ที่กรองจากเซลล์ไต ส่งไปสู่ท่อไต
กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute Pyelonephritis) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มแกรมลบบริเวณกรวยไต เชื้อที่พบได้บ่อย เช่น อีโคไล (Escherichia Coli) สูโดโมแนส (Pseudomonas) และ เคล็บซิลลา (Klebsiella) เป็นต้น กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน จะแสดงอาการชัดเจน และรุนแรง รักษาหายภายใน2-3 สัปดาห์ มักจะพบผู้ป่วยเป็นผู้หญิงในวัยเด็ก และวัยเจริญพันธุ์มากกว่าผู้ชาย
กรวยไตอักเสบเรื้อรัง Chronic Pyelonephritis เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณกรวยไต จาากการอุดกั้นหรือความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ ไม่แสดงอาการ นอกจากการตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย และเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ ผู้ป่วยมักจะมีการอักเสบของกรวยไตเป็นระยะเวลานาน ทำให้เซลล์ของไตถูกทำลาย เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง ในที่สุด
เมื่อรักษาหายแล้วแพทย์จะทำการนัดตรวจปัสสาวะ ทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อให้เป็นการแน่ชัดว่าจะไม่เกิดกรวยไตอักเสบเรื้อรัง เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ ภาวะแทรกซ้อน เช่นภาวะไตวาย และภาวะโลหิตเป็นพิษ ภาวะแทรกซ้อนนี้ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ สิ่งที่ป้องกันกรวยไตอักเสบเรื้อรัง คือการมาตามนัดหมายของแพทย์ทุกครั้ง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง