นิ่วทางเดินปัสสาวะ
นิ่วทางเดินปัสสาวะ ถ้าเกิดอาการ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

 

ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยโรคนิ่วอยู่เยอะพอสมควร โดยเฉพาะนิ่วทางเดินปัสสาวะ หรือ Urolithiasis เพราะนิ่วทางเดินปัสสาวะจะไม่แสดงตัวแต่มีอาการออกมา บ้างก็มีอาการปวดที่หลังหรือบริเวณบั้นเอว จะเป็น ๆ หาย ๆ บางรายก็ปวดท้องตื้อ ลามไปจนถึงบริเวณชายโครงด้านหลัง อาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะก็เป็นได้

 

 

 

 

นิ่วทางเดินปัสสาวะ อาการเป็นแบบไหน

 

 

  • ขณะปัสสาวะ มีก้อนกรวดหรือเม็ดนิ่วปะปนออกมา

 

  • อาจมีอาการเจ็บปวดบริเวณท้องและหลัง หรือจุดที่นิ่วอุดตันอยู่ 

 

  • ปัสสาวะลำบาก แสบ มีเลือด และติดขัด

 

  • อาจจะเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ถ้าเกิดกรณีที่ก้อนนิ่วเสียดสีกับท่อปัสสาวะจนเกิดแผล

 

  • ปวดหลัง บั้นเอว ท้องน้อยด้านล่าง

 

 

ตรวจหรือวินิจฉัยนิ่วทางเดินปัสสาวะ

 

 

  • สอบถามประวัติและตรวจร่างกายบริเวณระบบทางเดินปัสสาวะ

 

  • เอกซเรย์ช่องท้องบริเวณ ท่อไต ไต กระเพาะปัสสาวะ 

 

  • ส่องกล้องตรวจบริเวณกระเพาะปัสสาวะ

 

 

  • ตรวจปัสสาวะ เพื่อเช็คว่าปกติหรือไม่ มีเลือดปนออกมาไหม 

 

 

นิ่วทางเดินปัสสาวะ เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีอาการรุนแรงมาก อาจจะทำให้เกิดการเจ็บปวดถึงขั้นทรมานและเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้

 

 

 

 

นิ่วทางเดินปัสสาวะและการรักษา

 

 

  • การรักษาแบบสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก 

 

  • การรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดต่อมลูกหมาก ในกรณีที่เกิดนิ่วจากการคั่งค้างของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น 

 

 

  • ใช้สายสวนท่อปัสสาวะ ในกรณีที่เกิดโรคนิ่วจากกระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติ 

 

  • เจาะรูส่องกล้องผ่านผิวหนัง

 

 

 

 

การป้องกันนิ่วทางเดินปัสสาวะ

 

 

  • ควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร และไม่ควรกลั้นปัสสาวะ

 

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงการบริโภครสเค็มและอาหารที่มีออกซาเลตสูง

 

  • ในกรณีที่ต้องสวนปัสสาวะเอง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

 

  • งดทำงานหนักหลังจากการรักษาประมาณ 1-2 วัน

 

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และคอยสังเกตว่าขณะปัสสาวะ มีเศษนิ่วหลุดตามออกมาบ้างไหม

 

 

นิ่วทางเดินปัสสาวะ โรคนี้ไม่มีการแสดงตัวออกมา เช่น แผล สะเก็ดแผล หรืออะไรก็ตาม แต่อาการที่แสดงออกมาจะรุนแรงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะแล้วรู้สึกแสบ ลำบาก มีเลือดปนออกมา ออกไม่หมดหรือไม่สุด จนทำให้เกิดการคั่งค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อ ถ้าผู้ป่วยท่านไหนมีอาการตามที่กล่าวไป แนะนำรีบเข้าพบแพทย์โดยด่วน ยิ่งรู้ตัวเร็วยิ่งดี เพราะจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที



 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 

 

 

อาหารที่เสี่ยงเป็นนิ่ว และทำอย่างไรไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

 

 

ผ่าตัดนิ่ว พักฟื้นอย่างไรไม่ให้เป็นอันตราย