การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่วินิจฉัยภาวะผิดปกติในศีรษะ ว่าส่วนไหนเป็นจุดเสียหายที่ทำให้เกิดโรค ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสมอง เส้นเลือดแดง หรือดำ สามารถค้นพบเนื้องอก มะเร็ง การโป่งพอง เลือดออกของสมองได้อย่างพร้อมกัน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น ผนังทรวงอก ช่องท้องส่วนบน ล่าง โครงกระดูก กล้ามเนื้อ และสันหลัง
30-60 นาที ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากเป็นเนื้อเยื่อจะประมาณ 30 นาที ถ้าตรวจหลอดเลือดระยะเวลาเพิ่มอีก 15 นาที และมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ไม่ต้องใช้สารรังสีไอโอดีน และสายยางเพื่อฉีดสี เพราะ เป็นการตรวจที่ได้ภาพ 3 มิติที่มีความคมชัดสูง สามารถจำแนกแยกความแตกต่างของเนื้อเยื่อ อวัยวะ เส้นเลือด และส่วนต่างๆ ในสมอง ส่งผลให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น
เป็นเครื่องที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าร่วมกับคลื่นวิทยุพลังงานสูง เกิดการสะท้อนกลับมาที่ตัวรับสัญญาณ ถูกแปลงเป็นภาพ 3 มิติ ไม่มีรังสีใด ๆ ผลข้างเคียงมักจะเกิดการเสียวฟัน สำหรับผู้ที่เพิ่งอุดฟันมา และผู้ที่มีรอยสักบนร่างกาย อาจได้รับการระคายเคืองผิวหนังเล็กน้อย ส่วนผู้ที่สวมคอนแทคเลนส์ที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบ มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบต่อกระจกตาได้
ตรวจสมองด้วยเครื่อง MRI หรือ CT Scan
MRI มีความปลอดภัยมากกว่า เพราะการตรวจ CT Scan จะใช้วิธีการปล่อยลำแสง X-Ray ผ่านลำตัวผู้รับการตรวจเพื่อให้เกิดเงาภาพบนฉาก ใช้สารทึบแสงมักจะเป็นชนิดที่มีส่วนประกอบของไอโอดีน เหมาะแก่การตรวจกระดูกมากกว่า ใช้เวลา 10-15 นาที อาจทำให้เกิดความผิดปกติของผิวหนัง และไตในระยะยาวได้
โรงพยาบาลเพชรเวชมีความพร้อมในเรื่องของเทคโนโลยี โดยเฉพาะเครื่อง MRI ยี่ห้อ Philip Prodiva 1.5T CS and CX products. พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวก รวมทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง และเจ้าหน้าที่รังสีเทคนิคคอยให้บริการ โดยโปรแกรมคัดกรองโรคทางสมองแบ่งเป็นดังนี้
หลังการตรวจแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ปวดแสบ หายใจติดขัด ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ตรวจหาความผิดปกติโรคทางสมอง ด้วยการตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI
MRI หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging)