“การตั้งครรภ์” เป็นภาวะที่หลายคนอาจต้องการมี แต่มีผู้หญิงอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ไม่ต้องการให้เกิดภาวะดังกล่าวขึ้นกับตนเอง เพราะอาจจะอายุยังน้อย หรือยังไม่พร้อมที่จะมีลูก เมื่อมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันคุณผู้หญิงอาจจะรู้สึกกังวลว่าตัวเองจะตั้งครรภ์หรือไม่ วันนี้เรามีวิธีสังเกต และวิธีการตรวจครรภ์หลากหลายรูปแบบมาให้คุณผู้หญิงเลือกใช้ได้ตามสะดวก
การตรวจครรภ์สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองโดยการซื้ออุปกรณ์ หรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่จำหน่ายอยู่ในร้านค้าทั่วไป ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีทดสอบหาฮอร์โมน HCG ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ โดยจะหลั่งออกมาจากรกหลังจากปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน และจะขึ้นสูงสุดในช่วง 8-12 สัปดาห์หลังการมีเพศสัมพันธ์ ความแม่นยำของการตรวจวิธีนี้จะมีมากถึง 90 % โดยอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์นี้แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
ปกติแล้วการตรวจครรภ์ด้วยตัวเองมักจะทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ไม่ควรทิ้งไว้นานเกินไปเพราะอาจจะไม่มีขีดใดขึ้นมาเลย โดยบริเวณหน้าแสดงผลการตรวจจะมีตัวอักษร 2 ตัวคือ C (Control Line) และ T (Test Line) ซึ่งสามารถอ่านค่าได้ ดังนี้
อย่างไรก็ตามการตรวจครรภ์ด้วยวิธีนี้จะไม่สามารถให้ผลได้ 100 % และควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ที่แม่นยำกว่า โดยนอกจากวิธีดังกล่าวแล้วยังมีรูปแบบการตรวจครรภ์ด้วยวิธีอื่นด้วย คือการรับการตรวจครรภ์จากแพทย์ด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น ได้แก่
คุณหมอจะทำการซักถามประวัติข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่ต้องการรับการตรวจ เช่น เวลาของประจำเดือนที่มาครั้งสุดท้าย โดยในคำถามนี้ต้องตอบวันแรกของเดือนที่ประจำเดือนมาครั้งล่าสุด นอกจากนี้คุณหมอจะถามอาการที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเกิดการตั้งครรภ์ เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ปัสสาวะบ่อย เต้านมคัด หรือความผิดปกติของประจำเดือน เป็นต้น เพื่อให้การวินิจฉัยตรงไปตรงมาและมีความแม่นยำมากที่สุด
การตรวจภายในมีจุดประสงค์เพื่อยืนยันอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น ความผิดปกติของประจำเดือน หรืออาการอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่างไรก็ตามการตรวจภายในไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำในขั้นตอนการตรวจครรภ์แต่เป็นสิ่งที่ “ควรทำ” มากกว่าโดยหมอจะตรวจช่องคลอด ดูขนาดของมดลูก รังไข่ และปีกของมดลูก เป็นต้น หากผู้เข้ารับการตรวจรู้สึกว่าตัวเองมีความผิดปกติ เช่น ปวดท้องน้อย หรือบริเวณใกล้เคียงกับอวัยวะดังกล่าวให้รีบบอกแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ
การตรวจปัสสาวะสำหรับค้นหาการตั้งครรภ์จะให้ผลที่รวดเร็ว และแม่นยำพอสมควร โดยการเก็บปัสสาวะมาให้คุณหมอตรวจนั้น เราแนะนำให้เก็บปัสสาวะในตอนเช้าไปให้หมอตรวจ เพื่อผลที่แม่นยำเกือบ 100% เพราะมีระดับฮอร์โมน HCG ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ในกรณีที่ตรวจเวลาอื่นผลที่ได้มีโอกาสคลาดเคลื่อนได้ ดังนั้นการเก็บปัสสาวะในตอนเช้ามาตรวจจึงมีความแม่นยำกว่ามาก อย่างไรก็ตามผู้ตรวจควรขอคำแนะนำและแนวทางสำหรับการตรวจปัสสาวะจากแพทย์เพื่อให้ได้ขั้นตอนที่ถูกต้อง
การตรวจเลือดจะสามารถบ่งบอกการตั้งครรภ์ได้แน่นอนถึง 100% ด้วยการตรวจผ่านฮอร์โมน HCG โดยจะสามารถเข้ารับการตรวจเพื่อให้ได้ผลหลังการปฏิสนธิไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ แต่การตรวจด้วยวิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูง นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีประวัติมีบุตรยาก หรือผู้ที่เคยแท้งลูกมาก่อนควรตรวจด้วยวิธีนี้เนื่องจากการตรวจด้วยการตรวจเลือดจะช่วยให้วางแผนเพื่อป้องกันการแท้งบุตรได้นั่นเอง
การตรวจด้วยเครื่องการตรวจอัลตราซาวด์สามารถตรวจได้ตั้งแต่เริ่มการตั้งครรภ์ อีกทั้งการตรวจด้วยวิธีนี้ไม่มีความเจ็บปวดหรืออันตรายต่อผู้ตรวจ และปลอดภัยกว่าการเอกซเรย์ด้วย นอกจากนี้วิธีนี้ยังสามารถใช้ติดตามอายุครรภ์และช่วยวางแผนกำหนดคลอดได้ ไม่เพียงแต่เท่านั้นการตรวจด้วยการตรวจอัลตราซาวด์ยังสามารถบอกเพศของเด็ก ความผิดปกติของลูกน้อย และความสมบูรณ์ของอวัยวะลูกน้อยตามอายุครรภ์อีกด้วย โดยเครื่องการตรวจอัลตราซาวด์มีตั้งแต่ 2 มิติ 3 มิติ และ4 มิติ ซึ่งจะให้ความละเอียดของภาพแตกต่างกัน โดยเฉพาะแบบ 4 มิติ ที่สามารถแสดงท่าทางและอิริยาบถของเด็กในครรภ์ได้ ไม่ใช่แค่การตรวจครรภ์เท่านั้น การตรวจด้วยวิธีนี้ยังทำให้เห็นความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ด้วย
หากผู้ตรวจต้องการทราบแน่ชัดว่าตนเองท้องหรือไม่ควรตรวจด้วยวิธีการตรวจเลือด หรือใช้วิธีตรวจปัสสาวะร่วมกับการตรวจอัลตราซาวด์ได้เช่นกัน หากพบว่ามีการตั้งครรภ์เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำหรือทำการฝากครรภ์เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกในครรภ์
_____________________________________
_____________________________________
ติดต่อสอบถามแพ็กเกจคลอดและฝากครรภ์ คลิก Line @petcharavej