รับประทานผักดิบ
รับประทานผักดิบ อาจกระทบต่อระบบย่อยอาหาร

การรับประทานผัก ผลไม้ ล้วนแล้วแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่เหรียญนั้นย่อมมีสองด้านเสมอ หากบริโภคไม่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะรับประทานแบบดิบ ไม่ผ่านกรรมวิธีที่ปรุงสุกจากการใช้ความร้อน เพราะในปัจจุบันมีการใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงลงในผักและผลไม้ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เมื่อได้รับเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารและร่างกายส่วนอื่น ดังนั้นในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจหรือผู้ที่เลือกบริโภคมังสวิรัติอยู่แล้วควรเลือกผักที่สะอาดเพื่อป้องกันสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 

 

ผักที่ไม่ควรรับประทานแบบดิบ

 

  • กะหล่ำปลี

 

  • บรอกโคลี

 

  • ถั่วงอก

 

  • มันสำปะหลัง

 

  • ดอกกะหล่ำ

 

  • ถั่วฝักยาว

 

  • หน่อไม้

 

  • ผักโขม

 

 

กะหล่ำปลีดิบ

 

 

สารในผักดิบที่กระทบต่อสุขภาพ

 

ออกซาเลต

 

  • หากได้รับไปในปริมาณมาหรือระยะเวลานาน จะเข้าไปสะสมอยู่บริเวณกรวยไต อาจทำให้เป็นโรคนิ่วในไตได้

 

กอยโตรเจน

 

  • สารนี้จะไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายดึงไอโอดีนจากโลหิตได้น้อยกว่าปกติ เป็นสาเหตุโรคคอพอก

 

ไกลโคโปรตีนและแลคติน

 

  • จะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียหลังบริโภคผักดิบในระยะเวลา 3 ชั่วโมง

 

โซเดียมซัลไฟต์ หรือสารฟอกขาว

 

  • โดยเฉพาะการบริโภคผักสีขาวแบบดิบ ทำให้เกิดอาการหายใจติดขัด ความดันโลหิตต่ำ และปวดท้อง

 

ไซยาไนด์

 

  • สารนี้จะเข้าไปจับฮีโมโกลบิน ส่งผลให้เกิดร่างกายขาดออกซิเจน หมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

ออกซาลิก

 

  • เมื่อได้รับเข้าไปแล้ว มันจะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมในร่างกาย ภายหลังจะส่งผลทำให้เกิดโรคนิ่วขึ้น

 

น้ำตาลบางชนิด

 

  • ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลประเภทนี้ได้ ทำให้มีอาการท้องอืด แน่นท้อง

 

 

สารในบรอกโคลี

 

 

เลือกผักอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

 

  • เลือกซื้อตามฤดูกาล

 

  • มีสีสันตามธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาด ไม่มีคราบเชื้อรา

 

  • สังเกตว่ามีรู รอยเจาะ กัดของแมลงหรือไม่ หากมีแสดงว่าไม่มีการใช้สารเคมีของผักนั้น

 

  • ดูฉลาก บอกแหล่งที่มา รวมทั้งวัน เดือน ปี หมดอายุ หรือได้รับการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ

 

  • รับประทานผักผลไม้อย่างหลากหลายชนิด

 

  • หากสามารถทำการปลูกได้และนำมาบริโภคเอง เช่น พริก กะเพรา และผักชี เป็นต้น

 

 

ดูฉลากก่อนซื้อผัก

 

 

ล้างผักอย่างไรให้ปลอดจากสารเคมี

 

ล้างผ่านน้ำสะอาด

 

  • เด็ดผักออกแช่ในน้ำนาน 15 นาที

 

  • ต่อมาเปิดน้ำไหลผ่านผัก

 

  • ถูบริเวณต่าง ๆ ให้สะอาดทั้งหมด

 

ผงฟู หรือ Baking Soda

 

  • นำผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำ 20 ลิตร

 

  • นำผักแช่ไว้ 15 นาที

 

  • ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ

 

น้ำส้มสายชู

 

  • น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 4 ลิตร

 

  • แช่ผักไว้ 10 นาที

 

  • ล้างด้วยน้ำสะอาด

 

ด่างทับทิม

 

  • นำด่างทับทิมประมาณ 20 – 30 เกล็ด ละลายในน้ำ 4 ลิตร

 

  • แช่ไว้ 10 นาที

 

  • ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

 

 

หากต้องการให้สุขภาพดีควรรับประทานผัก ผลไม้ที่ถูกสุขลักษณะ ประมาณ 400 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ยังสามารถป้องกัน หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมองตีบ และมะเร็งบางชนิด เพราะเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ ทั้งนี้สารตกค้างในผักหรือยาฆ่าแมลงเราไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ จึงต้องใส่ใจในการล้างทำความสะอาดผักก่อนนำมาปรุงอาหาร เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย