คุดทะราด (yaws) เป็นโรคติดต่อเรื้อรังทางผิวหนัง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มักจะมีอาการเป็นตุ่มแผล ตามผิวหนัง พบได้ทั่วร่างกาย แม้จะรักษาให้หายได้ แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีก หากไม่ได้การรักษาจะเกิดการลุกลามเข้ากระดูก และภาวะแทรกซ้อนที่มีความรุนแรง คุดทะราดมักจะระบาดในบริเวณประเทศเขตร้อนชื้น บุคคลที่มีความเสี่ยงจะติดเชื้อคือ กลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี อีกทั้งในปัจจุบันก็ยังไม่มีวัคซีนใดที่สามารถป้องกันโรคคุดทะราดนี้ได้
โรคคุดทะราดเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Treponema pallidum pertenue) โดยที่เชื้ออาจเข้าสู่ร่างกายผ่านรอยแผลผิวหนัง และแผลถลอก สามารถติดต่อกันจากการสัมผัสน้ำเหลือง น้ำหนอง ของผู้ติดเชื้อโดยตรง หรือการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย อีกทั้งแมลงวันก็เป็นอีกพาหะหนึ่ง ซึ่งถ้ามันตอมแผลของผู้ติดเชื้อ แล้วไปตอมคนปกติที่เป็นแผล จะทำให้เกิดการติดต่อของโรคคุดทะราดได้
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคคุดทะราดได้จากการสังเกตอาการทางผิวหนังของผู้ป่วย และการสอบถามซักประวัติ นอกจากนี้ยังมีการตรวจเลือด และการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อผิวหนังในบริเวณที่มีความผิดปกติ นำไปส่องกล้อง เป็นต้น
นอกจากนี้แพทย์ยังมีการใช้ยาในกลุ่มเตตราไซคลิน (Tetrecycline) หรือยาอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ในการรักษาโรคคุดทะราดแก่ผู้ป่วยที่แพ้ยาเบนซาธีน เพนิซิลลิน (Benzathine Penicillin) และเพนิซิลลิน (Penicillin)
ในประเทศไทยเคยเกิดการระบาดของโรคคุดทะราดอย่างหนักใน พ.ศ. 2491 - 2493 พบมากในภาคอีสาน และภาคใต้ มีการคาดการณ์ว่าผู้ป่วยโรคคุดทะราดในช่วงเวลานั้นมีประมาณ 1,000,000 คน ทำให้ผู้คนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ โดยเฉพาะในเขตชุมชนชนบท ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่ด้วยความร่วมมือ รัฐบาลไทย องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) และกองทุนฉุกเฉินระหว่างประเทศสำหรับเด็ก (United Nations Children's Fund : UNICEF) สามารถควบคุมโรคคุดทะราดให้หมดไปใน พ.ศ. 2509