Obstetrics and Gynecology
Obstetrics and Gynecologist Clinic
 

Being female involves having both physical and mental complexities. This means that women need to take care of both their physical and mental health. In terms of physical health, women need to be careful and understanding in taking care of their bodies and regularly examine their bodies because some diseases have a higher chance of occurring in women than men. Additionally, women are a gender that goes through pregnancy, which requires special care. We are pleased to provide care for women's diseases, including pregnancy care, as well as provide advice on other women's issues.

>>>>additional details

 

________________________________

 

Contact for further inquiries

 

Operating hours : Monday - Friday 8:00 am. - 8:00 pm.

 

Weekend operating hours : Saturday - Sunday 8:00 am. - 6:00 pm.

 

Building/Floor: B/2

 

Contact number: 1390 ext. 263, 264

 

Line Official : @petcharavej  click

 

____________________________________

 

Related package

 

Gynecologic Cancers Clinic

When a woman becomes aware that she is pregnant, the first thing she should do is "register for prenatal care." This is important for both the mother's health and the health of the baby in the womb. Prenatal care includes maintaining the pregnancy and monitoring for any abnormal conditions during pregnancy. Petcharavej Hospital provides services for pregnant women with a team of specialized doctors who are ready to take care of the mother and baby. Today, we will provide you with information about what you should know about registering for prenatal care.

 

 

Why should you register for prenatal care?

 

Registering for prenatal care means that once you know you are pregnant, you seek regular and safe pregnancy care from a team of doctors. This includes monitoring and caring for the mother and baby throughout the pregnancy, including promptly addressing any problems that arise. There are many reasons why registering for prenatal care is important, including

 

  • Ensuring the safety of both the mother and the baby during pregnancy

 

  • Monitoring the pregnancy for any abnormal conditions, such as the risk of developing diabetes, etc. If any abnormalities are found, doctors can take steps to treat them before they become a danger to the mother and baby.

 

  • Ensuring the health of the baby in the womb by providing regular prenatal care that checks for proper weight gain and development.

 

  • Promoting the mother's mental well-being. If a mother does not register for prenatal care, she may not have access to proper care that meets medical standards. Therefore, by registering for prenatal care, the mother can receive advice and be monitored by an experienced doctor, helping her to understand the process of pregnancy and giving her the support she needs.

 

 

At what month of pregnancy should you start antenatal care (medical care provided to a pregnant woman before her baby is born) ?

 

  • You should not wait too long before seeking antenatal care, and it is important to start receiving maternity care as soon as possible for the safety of both mother and baby. If any complications arise during the pregnancy, they can be detected and treated in a timely manner. Maternity care should be received at least 5 times, as detailed below.

 

 

Prenatal care schedule

 

 

Preparing for Maternity Care

 

Choose a quality hospital that is close to your home for convenience in traveling, as this is a delicate matter and involves the safety of the pregnant person and the fetus.

 

  • Prepare questions about pregnancy so that when meeting with the doctor, they can ask for details.

 

  • Prepare information about your pregnancy history in case you have been pregnant before, as well as your medical history.

 

 

Maternity Care Process

 

  • The doctor will ask for information about the pregnant person, such as their medical history, medication history, the date of their last menstrual period before pregnancy, and their delivery history if this is not their first pregnancy.

 

  • A thorough physical examination will be performed, including weight, height, blood pressure, blood tests, urine tests, internal exams, and pregnancy exams to check the details of the fetus in the womb.

 

  • The pregnant person will receive a tetanus vaccine and a blood test to assess the risk of pregnancy.

 

  • If the pregnant person is at high risk, the doctor will conduct additional appropriate examinations.

 

  • Prenatal vitamins will be prescribed, and appointments for future check-ups will be scheduled.

 

  • As the due date approaches, the doctor will examine the breast of the mother to ensure complete readiness for breastfeeding in the future, in addition to planning for the delivery.

 

 

Pregnancy care is a safe choice for the safety of the mother and the fetus. It is also important to follow the appropriate practices during pregnancy. Therefore, when pregnancy occurs, it should not be ignored as there is a risk to the fetus at any time.

Obstetrics Gynecology-Cancer

มะเร็ง เป็นโรคร้ายที่เรารู้จักกันดี นอกจากมะเร็งจะมีหลายชนิดจัดตามตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายแล้ว สำหรับคุณผู้หญิงก็มีความเสี่ยงเฉพาะในการเป็นโรคนี้ เพราะมีมะเร็งที่เกิดขึ้นกับแค่สตรีเท่านั้น จึงทำให้คุณผู้หญิงจำเป็นต้องดูแลตัวเองมากขึ้น และต้องคอยป้องกันโรคร้ายนี้ด้วย สำหรับโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง คือ มะเร็งเต้านม

 

สาเหตุที่นำพาสู่มะเร็งในสตรี

 

  • ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

  • ไม่ออกกำลังกาย

  • พฤติกรรมการกินแบบผิด ๆ ไม่ทานอาหารที่มีประโยชน์

  • มีคู่นอนหลายคน

  • เคยเป็นโรคชนิดอื่นที่ส่งผลต่ออวัยวะที่สามารถเกิดมะเร็งได้ 

 

มะเร็งร้ายที่พบได้มากในเพศหญิง

 

  • มะเร็งเต้านม โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณเต้านม และสามารถเติบโตกลายเป็นเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ยังสามารถเติบโตและคุกคามไปยังอวัยวะ อื่น ๆ ได้ด้วย โดยโรคนี้จะไม่แสดงอาการในระยะแรกโดยอาการจะแสดงออกผ่านเต้านมทำให้มีของเหลวสีเหลืองไหลออกมา หรือคลำพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านม สามารถรักษาได้โดยการเข้าพบแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด หรือฉายรังสีก็ได้

  • มะเร็งรังไข่ เกิดได้กับสตรีที่ไม่เคยมีบุตร เคยเป็นมะเร็งชนิดอื่นมาก่อนหรือเกิดจากสารเคมี ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นท้อง เบื่ออาหาร มีก้อนเนื้อบริเวณท้องน้อย สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดหรือใช้เคมีบำบัด และยังมีอีกทางเลือกหนึ่งคือ “การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก”

  • มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากการผิดปกติของยีนจนกลายเป็นมะเร็งและเกิดเนื้องอก ปัจจัยพฤติกรรมการทานอาหารที่ทานแต่ของไขมันสูงก็มีโอกาสทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยจะมีอาการขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด รู้สึกอ่อนเพลีย สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดหรือใช้เคมีบำบัด

  • มะเร็งตับ เกิดจากเซลล์ในตับเกิดความผิดปกติกลายเป็นมะเร็งและก้อนเนื้อ หากเราเคยเป็นโรคที่มีผลต่อการทำงานของตับจะมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งตับมากขึ้นผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไม่อยากอาหาร อุจจาระมีสีซีด ช่องท้องมีอาการบวม สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดเปลี่ยนตับหรือทำเคมีบำบัด

 

มะเร็งปากมดลูก

 

เป็นมะเร็งที่สตรีมีโอกาสเป็นมากที่สุดและมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 600 คนต่อ 100,000 คน ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัส HPV ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้สามารถเกิดจากภูมิคุ้มกันต่ำได้ด้วย โดยผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกบริเวณช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน และมีอาการตกขาวมากกว่าปกติ แต่ส่วนใหญ่จะแสดงอาการในระยะที่เซลล์มะเร็งได้ลุกลามแล้ว สามารถรักษาได้ด้วยการเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาตามระยะและความรุนแรงของโรค เช่น ทำเคมีบำบัด ผ่าตัดมดลูก เป็นต้น

 

การป้องกันโรคมะเร็งในสตรี

 

เป็นที่รู้กันดีว่าโรคร้ายนี้เป็นโรคที่มีความอันตรายสูงและมีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ยากหากไม่ดูแลตัวเอง การคอยดูแลรักษาด้วยการออกกำลังกายหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารอาจไม่เพียงพอ ทางเราแนะนำให้ท่านทำการตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะการตรวจหามะเร็งหากพบเชื้อมะเร็งก่อนแพร่กระจายก็จะสามารถรักษาได้ทันท่วงที โดยการตรวจภายและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อัลตราซาวด์ประเมินมดลูกและรังไข่ รวมทั้งรับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

Gynecological Laparoscopic Surgery Center

การเป็นผู้หญิงนั้นลำบากกว่าการเป็นผู้ชายมาก มีโรคหลายโรคที่ผู้หญิงก็มีโอกาสเป็นได้มากกว่าผู้ชายด้วย แต่ในยุคสมัยใหม่ที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้นมากในการผ่าตัดที่สามารถผ่าตัดด้วยวิธีที่เจ็บน้อยกว่า ปลอดภัยกว่า และหายได้เร็วกว่า คือ "การผ่าตัดส่องกล้อง"

 

โรคในสตรีที่ต้องผ่าตัดผ่านกล้อง

 

  • เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก เป็นเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรงและมักพบในสตรีที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป เป็นโรคที่เกิดจากการเปลี่ยนของเซลล์กล้ามเนื้อ หรือมีฮอร์โมนที่เป้นตัวเร่งการเติบโตของมดลูก อาการที่พบบ่อย คือ ผู้ป่วยจะปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนและอาจมีประจำเดือนมามากผิดปกติ

  • เนื้องอกรังไข่ เป็นโรคที่เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธ์ุ สตรีที่ไม่ได้ให้นมบุตร สตรีที่มีอายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไป โดยผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณท้องน้อย มีอาการปัสสาวะบ่อย ท้องอืด

  • พังผืดในอุ้งเชิงกราน เป็นภาวะพังผืดที่เกิดขึ้นจากการอักเสบหรือติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน และอาจขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาการปวดท้อง ประจำเดือนมามากผิดปกติ ปวดหลังจนร้าวไปที่ขา

  • มะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรก ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัสผ่านการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้สามารถเกิดจากภูมิคุ้มกันต่ำได้ด้วย โดยผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกบริเวณช่องคลอดแต่ไม่ใช่ประจำเดือน และมีอาการตกขาวมากกว่าปกติ

  • เนื้องอกหรือติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เกิดจากติ่งเนื้อบนผนังเยื่อบุของมดลูกงอกออกมาผิดปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ทั่วไป แต่ในกรณีรุนแรงติ่งเนื้ออาจจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ อาการของภาวะการเป็นเนื้องอกในโพรงมดลูก คือ ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือประจำเดือนมาแบบกระปริบกระปรอย

 

ประเภทของการผ่าตัดผ่านกล้อง

 

  • การผ่าตัดกล้องทางหน้าท้อง ใช้เพื่อวินิจฉัยและผ่าตัดรักษาโรคหรืออาการผิดปกติภายในช่องท้อง

  • การผ่าตัดผ่านกล้องในโพรงมดลูก เป็นวิธีที่ใช้ตรวจความผิดปกติในโพรงมดลูก เพื่อทำการวินิจฉัยและทำการผ่าตัดต่อไป

 

การดูแลตัวเองก่อน – หลังผ่าตัดส่องกล้อง

 

ก่อนผ่าตัด ในช่วงก่อนผ่าตัดคนไข้ควรงดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และอาหารที่รับประทานมื้อก่อนผ่าตัดควรเป็นอาหารที่ย่อยง่าย หากผู้ป่วยมีสุขภายร่างกายที่แข็งแรงดีสามารถบริจาคเลือดของตนเอง เพื่อใช้ในกรณีที่อาจเสียเลือดมากระหว่างผ่าตัดได้

หลังผ่าตัด ผู้ป่วยอาจมีอาการล้าใน 2-3 วัน หลังการผ่าตัด หากผู้ป่วยต้องการอาบน้ำ พลาสเตอร์ที่ปิดแผลไว้ควรกันน้ำได้ด้วย และยังมีข้อปฏิบัติอื่น ๆ ดังนี้

  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่ำ 1-2 วัน

  • หลังผ่าตัดส่องกล้องหลีกเลี่ยงการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก และงดออกกำลังกาย 2-4 สัปดาห์

  • พักผ่อน 8-10 ชั่วโมงต่อวัน

  • รับประทานผัก ผลไม้ งดทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

  • งดการมีเพศสัมพันธ์ 6 สัปดาห์ หลังผ่าตัด

 

ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้อง

 

  • ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า

  • ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

  • เนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บน้อยกว่า

  • แผลเป็นจากการผ่าตัดมีขนาดเล็กกว่า

  • การผ่าตัดส่องกล้องสามารถลดโอกาสแผลติดเชื้อได้

  • เกิดพังผืดน้อยกว่า

 

การผ่าตัดด้วยวิธีนี้มีผลดีกับตัวของสตรีเนื่องจากดีกว่าการผ่าตัดแบบธรรมดาทุกด้าน ทางโรงพยาบาลเพชรเวชเองก็ยินดีให้บริการดังกล่าวด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้คุณผู้หญิงสามารถหายจากโรคและกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง