หน้าแรก
> รวมบทความสุขภาพ
> พยาธิปอดหนู อันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น จากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด
การนำสัตว์น้ำจืด เช่น หอยโข่ง หอยขม และกุ้ง มารับประทานโดยไม่สะอาด เป็นอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น เป็นอัมพาต และเสียชีวิตได้ เพราะสัตว์พวกนี้จะมีพยาธิปอดหนู และตัวอ่อนของพยาธิที่อยู่ในตัวของสัตว์ เมื่อรับประทานสัตว์น้ำจืดพวกนี้เข้าไป ก็ได้รับพยาธิปอดหนู หรือตัวอ่อนพยาธิเช่นกัน ซึ่งพยาธินี้สามารถขึ้นไปที่สมอง ตา และไขสันหลังของมนุษย์ได้
พยาธิปอดหนู (Angiostrongylus Cantonensis) หรือพยาธิหอยโข่ง คือ พยาธิตัวกลมที่อาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของหนู รูปร่างเรียวยาว 2-3 เมตร มีทั้งเพศผู้ และเพศเมีย โดยเพศเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ ลักษณะเป็นสีแดงสลับสีขาวเมื่อหนูถ่ายอุจจาระจะมีพยาธิตัวอ่อนปะปนออกมาพร้อมกัน เมื่อสัตว์ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์น้ำจืด เช่น หอย ตัวทาก หรือกุ้งแม่น้ำ มันจะรับประทานตัวอ่อนของพยาธิ หรือตัวอ่อนของพยาธิได้ไชเข้าตัวสู่ตัวสัตว์นั้น จะมีการเจริญเติบโต อยู่ในกล้ามเนื้อ หรืออวัยวะต่างๆของสัตว์ และเมื่อมนุษย์ได้เอาสัตว์ตัวนั้นมาเป็นวัตถุดิบอาหาร โดยไม่ปรุงสุก พยาธิปอดหนูจะเข้าสู่ร่างกาย เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้
หากพยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกาย จะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-30 วัน จะเกิดอาการต่างๆ แพทย์จะทำการตรวจร่างกายผู้ป่วย เพื่อหาพยาธิปอดหนู และทำการรักษา โดยการวินิจฉัยดังนี้
ส่วนใหญ่การรับประทานแบบสุกๆ ดิบๆ และไม่สะอาด และมักจะเป็นอาหารจากสัตว์น้ำจืด ได้แก่
นอกจากนี้การรับประทานผักสด หรือดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนก็สามารถได้รับพยาธิปอดหนูเช่นกัน
การค้นพบพยาธิปอดหนูครั้งแรกที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในค.ศ. 1935 โดยพบจากเส้นเลือดปอดหนู นอกจากนี้ยังสามารถพบพยาธิปอดหนูได้ในแถบทวีปเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับประเทศไทยนั้นมักจะพบได้บ่อยในภูมิภาคอีสาน และภาคกลาง