ร้อนใน ปัญหาจุกจิกที่รักษาเองได้
ร้อนใน ปัญหาจุกจิกที่รักษาเองได้

อาการร้อนใน (Aphthous Ulcers) เป็นอาการที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิด โดยแพทย์ได้สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่เพิ่มความเสี่ยง หรือโอกาสเกิดอาการร้อนใน เช่น ฮอร์โมน หรือเชื้อไวรัส ถึงแม้ว่าอาการดังกล่าวจะสามารถหายไปได้เองภายใน 2 สัปดาห์ แต่ระหว่างนั้นหากเกิดภาวะลุกลามหรืออาการไม่ดีขึ้นให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป

 

ร้อนในเกิดจากอะไร

 

ในปัจจุบันยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าร้อนในเกิดจากสาเหตุใด โดยเบื้องต้นอาจเกิดจากปัจจัยต่าง  ๆ หลายปัจจัย ได้แก่

 

  • พันธุกรรม
  • เชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
  • การแพ้อาหาร หรือการขาดสารอาหาร
  • ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
  • ความเครียด
  • พักผ่อนน้อย

 

หรือแม้แต่ปัจจัยภายนอกเองก็สามารถทำให้เกิดการกระตุ้นจนก่อให้เกิดอาการร้อนใน เช่น อาหารที่รับประทาน หรือแม้แต่การเกิดจากลักษณะเฉพาะของร่างกายสตรี คือ ประจำเดือน เป็นต้น

 

อาการของร้อนใน

 

อาการโดยทั่วไปของภาวะนี้จะมีความคล้ายคลึงกัน คือ มีลักษณะบวมแดง และเจ็บตามจุดต่าง ๆ ในช่องปาก เช่น ที่ริมฝีปากด้านใน ลิ้น แก้ม ในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น อาการไข้ หรือต่อมน้ำเหลืองบวม เป็นต้น แต่ก็ใช่ว่าภาวะร้อนในจะไม่มีอันตราย เนื่องจากยังมีอาการที่ควรเฝ้าระวัง และเมื่อหากเกิดขึ้นควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ได้แก่

 

  • แผลที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากกว่าจุดเดียว และเกิดขึ้นต่อเนื่องแม้ว่าแผลเก่าจะยังไม่หาย
  • แผลที่เกิดขึ้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าปกติ หรือลุกลามไปยังบริเวณอื่น
  • มีอาการไข้สูงร่วมด้วยขณะมีแผลร้อนใน
  • เป็นแผลร้อนในอย่างต่อเนื่อง และไม่มีอาการดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์
  • ผู้ที่มีปัญหา หรือมีอุปกรณ์ด้านทันตกรรมในช่องปากจนเป็นเหตุให้แผลหายช้า

 


เป็นร้อนในรักษาอย่างไร

 

หากเป็นแผลร้อนในโดยทั่วไปจะสามารถหายได้เองในระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

 

- ภายใต้การดูแลสุขภาพของช่องปากอยู่เสมอ ๆ เช่น การแปรงฟันโดยไม่ใช้แปรงที่มีขนแข็งจนเกินไป

- การใช้น้ำยาบ้วนปากอ่อน ๆ เป็นต้น นอกจากนี้การคอยดูแลไม่ให้แผลมีอาการรุนแรงก็ยังสำคัญเช่นเดียวกัน

- การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด

- หรือจะเลือกการซื้อยามาทานเองแต่ก็ควรอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์ด้วย

 

นอกจากนี้แผลร้อนในยังสามารถรักษากับแพทย์ได้โดยตรงหากไม่สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง โดยแพทย์จะแนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านแบคทีเรีย เพื่อลดอาการอักเสบ และอาจต้องรับยาตามที่แพทย์สั่งด้วย

 

ร้อนในป้องกันอย่างไร

 

อาการดังกล่าวนี้ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ แต่สามารถลดความเสี่ยงให้เกิดได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

 

  • รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดที่ทำให้เกิดการระคายเคือง หมั่นทานผักและผลไม้เพื่อเพิ่มวิตามินที่จำเป็นให้แก่ร่างกาย
  • ดูแลสุขอนามัยภายในช่องปากด้วยการแปรงฟันหลังรับประทานอาหาร และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแผลภายในช่องปาก โดยเฉพาะผู้ที่จัดฟัน

 

แผลร้อนในถึงแม้ว่าจะหายได้เองเสียเป็นส่วนมาก แต่อาการที่เกิดขึ้นสามารถสร้างความรำคาญ และความลำบากในการใช้ชีวิตได้ ดังนั้นเราจึงควรรักษาสุขอนามัยของช่องปาก และเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมเพื่อลดโอกาสเกิดโรคนี้ให้มากที่สุด