อาหารที่เสี่ยงเป็นนิ่ว และทำอย่างไรไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ
อาหารที่เสี่ยงเป็นนิ่ว และทำอย่างไรไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

อาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคนิ่วในบริเวณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถุงน้ำดี ไต อวัยวะทางเดินปัสสาวะ แม้ว่าผู้ที่ได้รับการรักษาผ่าตัดแล้วไม่ปรับพฤติกรรมรับประทานอาหารตามคำแนะนำของแพทย์ ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้ และต้องสูญเสียเวลา ค่าใช้จ่าย รวมทั้งความเสี่ยงของอาการที่อาจจะมีความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนหรือโรคอื่น ถึงขั้นติดเชื้อในกระแสโลหิต เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

 

อาหารที่มีออกซาเลตสูง

 

แคลเซียมชนิดหนึ่งที่เป็นสารก่อนิ่ว โดยร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ จึงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นในปัสสาวะ เช่น

 

  • ช็อกโกแลต

 

  • ปวยเล้ง

 

  • ผักโขม

 

  • หน่อไม้

 

  • ผักชีฝรั่ง

 

  • มันเทศ

 

  • ถั่วชนิดต่าง ๆ

 

  • งา

 

  • น้ำชา

 

 

หน่อไม้

 

 

อาหารโซเดียมสูง

 

เป็นตัวกระตุ้นปริมาณแคลเซียมในปัสสาวะให้สูงขึ้น โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์กระป๋อง แช่แข็ง เช่น

 

  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

 

  • ผักดองกระป๋อง

 

  • ข้าวกล่องที่ต้องผ่ากรรมวิธีอุ่นโดยใช้เครื่องไมโครเวฟตามร้านสะดวกซื้อ

 

  • น้ำพริกหรือซอส

 

  • ขนมขบเคี้ยว

 

นอกจากนี้ยังมีโซเดียมแฝงที่มีปริมาณสูง แต่รสชาติไม่ค่อยมีความเค็ม โดยเฉพาะเนื้อสัตว์แปรรูปและเบเกอรี่ ได้แก่

 

  • ไส้กรอก

 

  • หมูยอ

 

  • กุนเชียง

 

  • เนย

 

  • ชีส

 

  • ขนมปัง

 

  • เค้ก

 

  • คุกกี้

 

  • น้ำอัดลม

 

  • เครื่องดื่มชูกำลัง

 

 

ปลากระป๋อง

 

 

เนื้อสัตว์ไขมันสูง

 

จะไปเพิ่มปริมาณของกรดยูริก ลดระดับของซิเตรตที่ป้องกันนิ่วในร่างกาย รวมทั้งเกิดคอเลสเตอรอลที่น้ำดีขับออกไม่หมดจนตกตะกอน โดยเฉพาะตรงส่วนหนังและเครื่องใน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจาก

 

  • หมู

 

  • ไก่

 

  • เป็ด

 

  • ตับ

 

  • เซี่ยงจี๊

 

  • ปลาซาร์ดีน

 

  • หอย

 

  • นม

 

 

เครื่องในสัตว์

 

 

ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคนิ่ว

 

  • หลีกเลี่ยงอาหารในกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น

 

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

 

  • รับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือแคลเซียมเสริม

 

  • ออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ ตามศักยภาพของร่างกาย

 

  • ควบคุมน้ำหนักให้มีดัชนีมวลอยู่ในเกณฑ์ระดับปกติ

 

  • ทำกิจกรรมนันทนาการเพื่อผ่อนคลายความเครียด เช่น รับชมภาพยนตร์ ฟังเพลง เล่นดนตรี เป็นต้น

 

 

หลังผ่าตัดนิ่วผู้ป่วยจะมีอาการไม่สบายท้อง เจ็บ ปวด หรือถ่ายบ่อย เพราะการย่อยไขมันในร่างกายยังไม่ปกติ ทั้งนี้ควรได้รับวิตามินซีไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจจะไปเพิ่มปริมาณออกซาเลตได้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ รวมทั้งหากมีความผิดปกติต้องรีบมาพบแพทย์ทันที

 

 

 


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

 

ศูนย์ศัลยกรรมและการผ่าตัด

 

 

ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้อง

 

 

ผ่าตัดนิ่ว พักฟื้นอย่างไรไม่ให้เป็นอันตราย

 

 

โซเดียมแฝงในอาหาร สาเหตุในการเกิดโรคที่ปราศจากความเค็ม