การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็ก 5- 11
การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็ก

การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็ก อายุ 5 – 12 ปี จะมีปริมาณ 10 ไมโครกรัมต่อโดส บรรจุภัณฑ์ของวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กนั้น จะเป็นฝาสีส้ม (Orange cap ) ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนไฟเซอร์ที่ใช้ในกลุ่มผู้ใหญ่ที่บรรจุภัณฑ์จะเป็นฝาสีม่วง (Purple cap) ในปริมาณ 30  ไมโครกรัมต่อโดส ไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ (แม้ว่าจะแบ่ง3 ส่วน ในปริมาณ10 ไมโครกรัม) ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของร่างกาย จำเป็นต้องใช้วัคซีนให้ตรงกับกลุ่มอายุ

 

 

วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก 5-11 ปี

 

วัคซีนฉีดไฟเซอร์สำหรับเด็ก 5-11 ปี ขนาด 10 ไมโครกรัม ปริมาณ 0.2 มล. เจือจางด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.9 % สามารถเก็บรักษาวัคซีนในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ในระยะเวลา 10 สัปดาห์บับตั้งแต่นำออกจากตู้แช่แข็ง  โดยการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กนั้นจะทำการฉีดเข้ากล้าม 2 ครั้ง ห่างกัน 3-12 สัปดาห์ แต่ถ้าหากเว้นระยะห่างกัน 8-12 สัปดาห์ จะได้รับระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า และผลข้างเคียงน้อยกว่าการเว้นระยะห่าง 3-4 สัปดาห์

 

 

อาการข้างเคียงของวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก

 

วัคซีนมีความปลอดภัย  หลังจากฉีดวัคซีนมักจะมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และหายเป็นปกติภายใน 1 – 2 วัน  โดยจะพบอาการ ดังนี้

 

  • เจ็บบริเวณที่ฉีดวัคซีน

 

  • อ่อนเพลีย

 

  • ปวดศีรษะ

 

  • เป็นไข้ หนาวสั่น

 

  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

 

 

ข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก

 

การวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5 – 12 ปี จะมีกลุ่มเสี่ยงเป็นเด็กที่มีโรคประจำตัว ได้แก่

 

  • 1. เด็กที่เป็นโรคอ้วน หรือมีภาวะทางเดินหายใจอุดตัน

 

  • 2. เด็กที่เป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืด มีอาการปานกลางถึงรุนแรง

 

  • 3. เด็กที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งเด็กที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง

 

  • 4. เด็กที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง

 

  • 5. เด็กที่เป็นโรคมะเร็ง และภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

 

  • 6. เด็กที่เป็นโรคเบาหวาน

 

  • 7. เด็กที่อยู่ในกลุ่มอาการดาวน์ หรือเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางประสาทอย่างรุนแรง รวมทั้งเด็กที่มีพัฒนาการช้า ในกลุ่มโรคทางพันธุกรรม

 

ก่อนทำการฉีดวัคซีนเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และมีโรคประจำตัว ควรรับประทานอาหาร และรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างปกติ 

 

นอกจากนี้เด็กที่อยู่ในช่วงกำลังป่วย มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน เพื่อทำการรักษาให้อาการป่วยบรรเทาลง จนร่างกายหายเป็นปกติ  รวมทั้งเด็กที่มีโรคประจำตัวรุนแรง หรืออาการของโรคที่ห้ามฉีดวัคซีน ควรให้แพทย์ประเมินสภาพร่างกายก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน

 

 

วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก

 

 

การฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กที่เคยติดโควิด-19

 

หากเด็กที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรกสูตรสำหรับเด็ก ฝาสีส้ม (Orange cap )  ขนาด 10 ไมโครกรัม และอายุครบ 12 ปีบริบูรณ์ ในช่วงการฉีดวัคซีนเข็มที่2 แนะนำให้ฉีดวัคซึนเข็มที่ 2 ด้วยวัคซีนสูตรสำหรับผู้ใหญ่ ฝาสีม่วง (Purple cap) ขนาด 30 ไมโครกรัม แต่ถ้าหากอายุครบ12 ปีบริบูรณ์ แล้วไปฉีดวัคซีนเข็มที่2 ด้วยสูตรสำหรับเด็ก ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำ ถือได้ว่ารับวัคซีนครบถ้วนสมบูรณ์

 

สำหรับเด็กที่เคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแล้ว แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพียงหนึ่งเข็ม โดยเว้นระยะเวลาอย่างน้อยสามเดือน หลังหายจากอาการติดเชื้อโควิด-19

 

 

แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด -19 ในเด็กนั้นจะน้อย แต่เป็นเรื่องที่สำคัสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับเด็ก เพราะมีการพบว่าเด็กที่ได้รับเชื้อโควิด-19 แล้ว จะป่วยเป็นโรคมิสซี ซึ่งมีอาการอักเสบจากอวัยวะภายใน ดังนั้นเด็กอายุ5 -12 ปี ควรที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19