MRI หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging)  
MRI หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging) 

เครื่องมือเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ใช้เพื่อการวินิจฉัยร่างกายอย่างละเอียด แม่นยำ ปลอดภัยจากรังสี ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด นั่นคือ เครื่อง MRI ซึ่งจะใช้พลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นวิทยุความเข้มสูง ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวประมวลผล พร้อมทั้งสร้างภาพกายวิภาคที่มีความคมชัด ช่วยให้แพทย์สามารถหาสาเหตุของโรค และอวัยวะที่เสียหาย หรือเสื่อมสภาพของผู้ป่วยได้ตรงจุด สามารถรายงานผลหลังตรวจอย่างรวดเร็ว และช่วยในเรื่องวางแผนการรักษาได้เป็นอย่างดี

 

 

ทำความรู้จักกับเครื่อง MRI

 

 

ใช้สำหรับตรวจโรคอะไร และส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง

 

ตรวจได้ทุกส่วนของร่างกาย แบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่

 

1. อวัยวะของระบบประสาท (neuro)

 

  • เช่น เนื้อสมองส่วนต่างๆ หลอดเลือดแดงที่คอ เส้นเลือดในสมอง และกะโหลกศีรษะ เป็นต้น

 

2. อวัยวะภายในร่างกาย (Body) 

 

  • ผนังทรวงอก หรือก้อนที่ Chest wall

 

  • อวัยวะภายในช่องท้องส่วนบน เช่น ตับ ม้าม ถุงน้ำดี และไต เป็นต้น

 

  • อวัยวะภายในช่องท้องส่วนล่าง เช่น มดลูก รังไข่ และต่อมลูกหมาก เป็นต้น

 

3. โครงกระดูกและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal) หรือ MSK ได้แก่

 

  • ข้อไหล่ ข้อมือ กล้ามเนื้อขาส่วนต้น ข้อเข่า ข้อเท้า เป็นต้น

 

  • รวมทั้งกระดูกสันหลัง (Spine)

 

สามารถใช้เครื่อง MRI วินิจฉัยยืนยันโรคได้หลากหลาย ตามที่แพทย์สันนิษฐานตามอาการของผู้ป่วย เช่น โรคสมองเสื่อม หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เอ็นข้อเข่าส่วนหน้าขาด รวมทั้งสามารถตรวจความเสียหายของทุกส่วนในร่างกายจากการได้รับอุบัติเหตุ

 

 

ประโยชน์ของเครื่อง MRI

 

  • ไม่มีอันตรายจากรังสีเหมือนการตรวจร่างกายแบบอื่นๆ สามารถเข้ารับบริการได้ทุกเพศทุกวัย

 

  • ญาติของผู้ตรวจ MRI สามารถเข้าไปในห้องขณะทำการตรวจได้

 

  • ปัจจุบันผู้ป่วยที่มีขดลวด หรือวัสดุโลหะที่ฝังอยู่ในร่างกาย รวมทั้งผู้ที่ติดเหล็กดัดฟันสามารถเข้าทำการตรวจ MRI ได้

 

  • หากผู้เข้ารับบริการมีความกังวลกับการตรวจ MRI สามารถใช้ยาสลบ ยานอนหลับ หรือยาคลายเครียด แล้วจึงทำการตรวจได้

 

 

ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ MRI

 

  • ก่อนการตรวจ MRI แพทย์จะวินิจฉัยผู้ตรวจในผู้ป่วยที่ติดอุปกรณ์วัสดุโลหะบางอย่างในร่างกาย เช่น ผู้ที่ใส่อวัยวะเทียมภายในหู (Cochlea Implant) ผู้ที่ใส่เครื่องเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) ผู้ที่ใส่ขดลวดถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจ (Stent) ว่าสามารถทำการตรวจได้หรือไม่

 

  • สำหรับผู้ที่ติดเหล็กดัดฟันนั้น อาจจะต้องถอดเหล็กดัดฟันก่อนหากต้องการตรวจ MRI ในส่วนของ กระดูกต้นคอ หรือลำคอ เพราะอาจทำให้การวินิจฉัยคลาดเคลื่อนได้

 

 

MRI  Philip Prodiva 1.5T CS and CX products

 

 

โรงพยาบาลเพชรเวชพร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่อง MRI ยี่ห้อ Philip Prodiva 1.5T CS and CX products. พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยแก่ผู้เข้ารับบริการ ได้แก่

 

 

      Receiver

 

 

อุปกรณ์รับสัญญาณเฉพาะส่วน

 

  • เช่น อุปกรณ์รับสัญญาณส่วนศีรษะ บริเวณหน้าท้อง และตามส่วนข้อต่างๆ ของร่างกาย

 

 

Electrocardiogram ECG

 

 

เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG

 

  • เป็นเครื่องวัดกำลังของสัญญาณไฟฟ้าที่ทำให้หัวใจเต้น เพื่อหาความผิดปกติ และจังหวะการเต้นของหัวใจ ขณะเข้ารับบริการตรวจ

 

 

SpO2 measures respiration

 

 

SpO2 วัดค่าการหายใจ

 

  • เป็นเครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด และประสิทธิภาพของปอดของผู้เข้ารับการตรวจ MRI 

 

 

Noise canceling headphones

 

 

หูฟังกั้นเสียง

 

  • การทำงานของเครื่อง MRI จะส่งเสียงรบกวน แต่จะไม่เป็นอันตราย หรือมีความดังจนเกินไป ผู้เข้ารับบริการตรวจสามารถไม่ใช้หูฟังกั้นเสียงนี้ได้

 

 

Emergency Squeeze

 

 

ลูกบีบฉุกเฉิน

 

  • หากมีอาการผิดปกติขณะที่ผู้เข้ารับบริการกำลังตรวจอยู่ในเครื่อง MRI สามารถลูกบีบฉุกเฉิน เรียกเจ้าหน้าที่เพื่อทำการหยุดตรวจชั่วคราว

 

 

Sandbags for the patient

 

 

ถุงทรายกั้นผู้ป่วย

 

  • ใช้กั้นผู้ป่วยไม่ให้ตกจากเตียงขณะอยู่ในเครื่อง MRI

 

 

หลังจากทำการตรวจแล้ว พนักงานจะทำความสะอาดเครื่อง MRI ทุกครั้งอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัย และความสะอาดของผู้เข้ารับบริการ หากทำการตรวจแล้วมีอาการที่ผิดปกติสามารถเข้าพบแพทย์ของโรงพยาบาลเพชรเวชได้ทันที อีกทั้งผู้ที่เข้ารับการตรวจ MRI ในบริเวณช่องท้องส่วนบน แพทย์อาจให้งดน้ำ งดอาหาร ก่อนตรวจ 4-6 ชั่วโมง 

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 

ศูนย์ MRI เบอร์โทรศัพท์ : 1390 

 

LINE @petcharavej คลิก