Q : สนใจแพคเกจผ่าตัดฝีคัณฑสูตรต้องทำอย่างไรบ้าง
A : หากสนใจแพคเกจผ่าตัดฝีคัณฑสูตร สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่ LINE คลิก เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงแนะนำการเข้ารับบริการตั้งแต่พบแพทย์จนถึงการผ่าตัดและหลังการผ่าตัด
Q : แพทย์ผ่าตัดฝีคัณฑสูตร มีท่านใดบ้าง และออกตรวจในวันและเวลาใดบ้าง
A1 : แนะนำแพทย์เฉพาะทาง 2 ท่าน คือ นพ.ภูวสิษฏ์ ตรีจักรสังข์ และพญ.วารินทร์ เวสารัชวิทย์ ก่อนเข้ารับบริการสามารถตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ได้
A 2 : สามารถนัดหมายหรือตรวจสอบคิวแพทย์ได้ที่ LINE คลิก
Q : แพคเกจผ่าตัดฝีคัณฑสูตรรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วหรือไม่
A : ก่อนเข้าแพคเกจจะมีค่าพบแพทย์,ค่าตรวจวินิจฉัยเพื่อผ่าตัดและกรณีวินิจฉัยต้องเข้ารับการผ่าตัดจะมีค่าตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด ทั้งนี้หากแพทย์พิจารณาแล้วว่าผู้ป่วยเข้าแพคเกจได้ จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Q : ก่อนเข้าแพคเกจและหลังผ่าตัดจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?
A : 1.พบแพทย์เฉพาะทางก่อนเพื่อให้แพทย์ประเมินอาการ และร่างกายก่อนผ่าตัด ค่าใช้จ่ายประมาณ 700 - 1,000 บาท (กรณีไม่มีส่งตรวจอุปกรณ์พิเศษใด ๆ เพิ่ม)
A : 2.ตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด (Pre-op) หากผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัว ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 - 5,000 บาท กรณีผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
A : 3.ตรวจโควิด-19 Antigen Test (ATK) ก่อนเข้ารับบริการผ่าตัด ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาท (กรณีผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจะต้องตรวจโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR 1,500 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่แพทย์พิจารณาส่งตรวจ)
A : 4.หลังผ่าตัดแพทย์จะนัดหมายติดตามอาการเพื่อดูถึงความผิดปกติ หรือดูแผลผ่าตัดว่าเกิดการติดเชื้อ มีผลข้างเคียงหรือไม่ เป็นต้น ค่าใช้จ่ายประมาณ 700 - 1,000 บาท (ไม่รวมหากมียากลับบ้านเพิ่มและส่งตรวจอุปกรณ์พิเศษใด ๆ เพิ่ม)
Q : หากมีผลตรวจจากโรงพยาบาลอื่นควรทำอย่างไรบ้าง
A : หากมีผลตรวจจากโรงพยาบาลอื่น สามารถนำผลตรวจทั้งหมดมาประกอบพิจารณาการผ่าตัดเพิ่มเติมได้เลย หากแพทย์พิจารณาจากผลเดิมได้ ผู้ป่วยอาจไม่ต้องตรวจรายการอื่นและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก่อนผ่าตัด
Q : หากมีผลตรวจจากโรงพยาบาลอื่นมาแล้ว แต่เนื่องจากต้องเดินทางไกล และต้องการทราบผลเบื้องต้นจะผ่าตัดได้หรือไม่ ควรทำอย่างไร
A : หากมีผลตรวจจากโรงพยาบาลอื่น และต้องการทราบผลการผ่าตัดเบื้องต้น สามารถส่งให้ทางโรงพยาบาลเพื่อประสานพยาบาลและแพทย์ประเมินเบื้องต้นก่อนได้ หลังจากนั้นแพทย์จะนัดหมายมาพบแพทย์ตามขั้นตอนอีกครั้ง
Q : พบแพทย์แล้วสามารถผ่าตัดได้เลยหรือไม่
A : ในกรณีฉุกเฉิน หากแพทย์พิจารณาแล้วว่าคนไข้ต้องเข้ารับการผ่าตัด สามารถผ่าตัดได้เลย ส่วนในกรณีไม่ฉุกเฉินแพทย์จะนัดหมายอีกครั้งโดยไม่เกิน 1 สัปดาห์ (ทั้งนี้อยู่ที่ความสะดวกของผู้ป่วยและคิวแพทย์ผ่าตัดด้วย)
Q : มีประกันชีวิตสามารถใช้ในแพคเกจนี้ได้หรือไม่
A : หากมีประกันชีวิตและมีการคุ้มครองการผ่าตัดสามารถเข้าผ่าตัดแพคเกจนี้ได้ โดยเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบความคุ้มครองเบื้องต้นก่อนเข้ารับบริการ และในวันที่พบแพทย์เพื่อประเมินการผ่าตัดจะมีการเช็กความคุ้มครองอีกครั้ง
Q : สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้หรือไม่
A : กรณีสิทธิประกันสังคม สามารถผ่าตัดได้ ซึ่งไม่สามารถเข้าแพคเกจได้ แต่จะต้องเข้าพบแพทย์ตามขั้นตอนประกันสังคม โดยจะต้องเข้าพบแพทย์ทางด้านอายุรกรรมหลังจากแพทย์วินิจฉัยจะส่งต่อแพทย์เฉพาะทางอีกครั้ง และนัดหมายเข้ารับการผ่าตัด
Q : หากมีสิทธิประกันสังคมแต่ไม่สะดวกรอผ่าตัด และประสงค์จะชำระค่ารักษาตามแพคเกจได้หรือไม่
A : หากผู้ป่วยประสงค์ผ่าตัดโดยไม่ใช้สิทธิประกันสังคมสามารถเข้ารับบริการได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณาอีกครั้ง และผู้ป่วยจะต้องสละสิทธิ์โครงการประกันสังคมและยินยอมการรักษาค่าพยาบาลตามเงื่อนไขของโรงพยาบาลที่กำหนดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
Q : เมื่อแพทย์วินิจฉัยผ่าตัดฝีคัณฑสูตร จะมีขั้นตอนการผ่าตัดอย่างไร
A : การผ่าตัดรักษาฝีคัณฑสูตรเรื้อรัง ขั้นตอนขึ้นอยู่กับชนิดของฝี ปกติจะไม่เย็บปิดแผลผ่าตัด โดยภาวะแทรกซ้อนที่พบได้หลังผ่าตัด เช่น มีเลือดออก น้ำเหลืองซึม การกลั้นอุจจาระ และการผายลมไม่สมบูรณ์ (ขึ้นอยู่กับชนิด และความลึกของฝี) และมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีกครั้ง
Q : ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดเท่าใด
A : ผ่าตัดใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
Q : ผ่าตัดแล้ว มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีกได้หรือไม่
A : โรคฝีคัณฑสูตรเป็นโรคที่สามารถรักษาหายแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ถ้าหากเรายังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หรือการใช้ชีวิต หลังผ่าตัดแพทย์จะแนะนำการดูแลตัวเอง เช่น แนะนำการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเจ็บปวดเวลาถ่าย มีทั้งการกินอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อให้อุจจาระนิ่ม และการดื่มน้ำอย่างเพียงพอในช่วงเวลาพักฟื้น
Q : โรคฝีคัณฑสูตรแตกต่างกับโรคริดสีดวงอย่างไร
A : โรคทั้งสองนี้แม้จะมีอาการคล้ายคลึงกันคือ มีอาการเจ็บบริเวณทวารหนัก อาจถ่ายเป็นเลือด แต่โรคฝีคัณฑสูตรจะไม่สามารถหายเองได้เหมือนโรคริดสีดวง ต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดเท่านั้น โดยอาการของโรคริดสีดวงจะมีเลือดออกขณะ หรือหลังถ่ายอุจจาระ มีติ่งหรือก้อนที่ทวารหนักอาจมีอาการคัน ปวด เจ็บ ส่วนโรคฝีคัณฑสูตร ฝีที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการอุดตันของต่อมผลิตเมือกและเกิดการติดเชื้อจนเป็นหนองภายในทวารหนัก โดยบริเวณนี้จะมีต่อมผลิตเมือกจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อเนื่องจากเป็นทางผ่านของอุจจาระ ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียสะสมจนเกิดเป็นฝี และเมื่อฝีแตกออกจนมีหนองไหลออกมาที่ผนังรอบปากทวารก็จะกลายเป็นฝีคัณฑสูตรในที่สุด
Q : โรคฝีคัณฑสูตรเกิดจากสาเหตุอะไร
A : เป็นฝีที่เกิดขึ้นจากการอุดตันของต่อมผลิตเมือกและเกิดการติดเชื้อจนเป็นหนองภายในทวารหนัก โดยบริเวณนี้จะมีต่อมผลิตเมือกจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อเนื่องจากเป็นทางผ่านของอุจจาระ ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียสะสมจนเกิดเป็นฝี และเมื่อฝีแตกออกจนมีหนองไหลออกมาที่ผนังรอบปากทวารก็จะกลายเป็นฝีคัณฑสูตรในที่สุด
Q : เงื่อนไขการเข้ารับบริการมีอะไรบ้าง
A : 1.การเข้ารับบริการแพ็กเกจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น (เช่น ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว)
A : 2. แพ็กเกจดังกล่าวไม่รวมภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคประจำตัว (Underlying disease) ของผู้ป่วยและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนอกเหนือแพ็กเกจการผ่าตัด
A : 3. ไม่รวมกรณีนอนพักเกินจำนวนวันที่กำหนดไว้ในแพ็กเกจ และค่าห้อง ICU กรณีจำเป็นต้องนอนหลังผ่าตัด
A : 4. สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทยเท่านั้น
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ผ่าตัดฝีคัณฑสูตร (Fistulotomy)
ฝีคัณฑสูตร โรคติดเชื้อภายในทวารหนัก
ดูแลตัวเองง่าย ๆ สไตล์คนเป็นฝีคัณฑสูตร