การเสี่ยงโชคเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักดีเนื่องจากการเสี่ยงโชคเป็นหนึ่งในหนทางลัดที่จะทำให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการทั้งเงินทอง หรือวัตถุต่าง ๆ เช่น การเล่นหวย การจับฉลากปีใหม่ แน่นอนว่าการเสี่ยงโชคบางครั้งก็มาในรูปแบบของคำว่า “การพนัน” ในรูปแบบผิดกฎหมาย เช่น หวยใต้ดิน พนันบอล และด้วยรางวัลที่ได้ทำให้หลายคนเกิดอาการติดการพนันต้องเล่นตลอดไม่สามารถหักห้ามใจตนเองได้ สาเหตุของโรค “ติดการพนัน” นั่นเอง
เป็นหนึ่งในโรคทางจิตเวช ผู้ที่เป็นโรคนี้จะไม่สามารถบังคับตนเอง หรือต่อต้านต่อปัจจัยที่ทำให้เกิดความอยากเล่นการพนัน และจะสนใจหมกมุ่นอยู่กับการพนันเสียเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น อาการซึมเศร้า ดื่มสุรา และอาจรุนแรงถึงขั้นใช้สารเสพติด หรือจะเป็นปัญหาชีวิตในด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นทั้งการงาน การเรียน หรือชีวิตครอบครัว เป็นต้น
โรคนี้ไม่ใช่แค่คำว่า “ชอบเล่น” หรือ “เล่นเยอะ” แล้วจึงติดเท่านั้น เพราะถ้าหากเป็นคนชอบซื้อหวยทุกงวดแต่ไม่ได้เพิ่มปริมาณการซื้อให้มากขึ้น และไม่รู้สึกเศร้าเมื่อไม่ได้รางวัล กรณีนี้ถือว่าไม่ได้เป็นโรคติดพนัน ดังนั้นสาเหตุที่สามารถทำให้เกิดโรคนี้จึงมีอยู่ 3 ประการ ได้แก่
สาเหตุเหล่านี้จะนำพาไปสู่ภาวะขาดการยับยั้งตนเองต่อสิ่งเร้า หรือความยากในการเล่นการพนัน เมื่อเวลาผ่านไปตัวของเราจะยิ่งรู้สึกว่าการพนันเป็นสิ่งปกติ และมีความสนุกสนาน กว่าจะรู้ตัวอีกทีการพนันอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว
ศาสตร์ของตัวเลขเป็นศาสตร์ที่อยู่คู่คนไทยมานานนับศตวรรษ เพราะตัวเลขนั้นสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่วันเกิด บ้านเลขที่ ถึงขนาดมีการนำตัวเลขต่าง ๆ ไปใช้ในการดูฤกษ์ยาม รวมไปถึงการ “เล่นหวย” ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักเสี่ยงโชคทั้งหลาย โดยจุดประสงค์หลักของการซื้อหวยของคนส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องเงิน
วลีที่ว่า “คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น” คงใช้ไม่ได้ในยุคสมัยนี้ เพราะไม่ว่าจะรวย หรือจนหากเสพติดการเล่นหวยจนกลายเป็นนิสัยย่อมส่งผลเสียตามมาได้ทั้งนั้น จากข้อมูลสถิติของสสส. “การติดหวย” เป็นปัญหาติดการพนันในอันดับต้น ๆ ของคนไทย โดยผู้มีความเสี่ยงจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน และยังพบว่าผู้ที่ติดการพนันมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย และใช้สารเสพติดสูงกว่าคนทั่วไปถึง 2-5 เท่า
แม้หวยจะสามารถทำให้คนฐานะธรรมดากลายเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน คนจึงเกิดความคาดหวังว่าการซื้อหวย หรือซื้อลอตเตอรี่จะทำให้รวย และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่การถูกรางวัลที่ 1 มีโอกาสถูกจริงเพียงแค่ 1 ในล้าน ส่วนการถูก 2-3 ตัวบนล่างมีโอกาสถูกจริงเพียง 0.4-2% เท่านั้น
เมื่อซื้อหวยแล้วไม่ถูก บางคนอาจจะเลิกเล่น หรือเล่นให้น้อยลง แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่ติดการพนัน หรือผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชคทั้งหลายจะมีพฤติกรรมตรงกันข้ามนั่นคือ ยิ่งไม่ถูกจะยิ่งเพิ่มจำนวนเงินในการพนันมากขึ้น และจะพยายามขวนขวายเลขเด็ดที่คิดว่าจะถูก ผลที่ตามมาไม่ใช่แค่เงินที่สูญเสียไป แต่ยังรวมไปถึงสภาพจิตใจที่เมื่อเราเกิดการหมกมุ่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดการเสพติดจนไม่สามารถควบคุมการเล่นของตัวเองได้ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่าง ๆ ตามมา เช่น มีปัญหาด้านการเงิน การเรียน การงาน การใช้ชีวิต และอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดภาวะซึมเศร้าจนฆ่าตัวตาย ดังนั้นการพนัน เลขเด็ด และหวยจึงไม่ใช่สิ่งที่จะพาเราไปสู่ความร่ำรวย หรือการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่จะกลับกลายเป็นนำพาความซวยมาให้เราแทน
โรคติดการพนันอาจจะเป็นโรคที่คนป่วยไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่เราสามารถทำแบบประเมินพฤติกรรมเพื่อทดสอบว่าเราเข้าข่ายเป็นโรคติดการพนันหรือไม่ โดยเริ่มจากการประเมินตนเองว่าในช่วง 1 ปี หรือ 12 เดือนที่ผ่านมาเรามีพฤติกรรม หรือความรู้สึกเช่นนี้หรือไม่ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นำคะแนนของทุกข้อมารวมกัน โดยมีเกณฑ์คะแนนของคำตอบ ดังนี้
แบบทดสอบให้คะแนนตนเอง 9 ข้อ ดังนี้
1. เล่นพนันแต่ละครั้ง มักใช้เงินจำนวนมากหรือไม่
2. ต้องเพิ่มจำนวนเงินพนันเพื่อให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจหรือไม่
3. หวนกลับไปเล่นพนันอีก โดยหวังว่าจะนำเอาเงินที่เสียไปแล้วคืนมาหรือไม่
4. ต้องหยิบยืมเงิน หรือขายสิ่งของบางอย่างเพื่อให้ได้เงินมาเล่นพนันหรือไม่
5. เคยรู้สึกว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการพนันหรือไม่
6. เกิดปัญหาสุขภาพทั้งทางกาย และทางใจ เช่น เครียด และกังวลจากการเล่นการพนันหรือไม่
7. มีคนบอกว่าคุณเป็นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการพนันหรือไม่ (โดยคุณอาจจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม)
8. การพนันทำให้คุณมีปัญหาการเงินหรือทรัพย์สินในบ้านหรือไม่
9. มีความรู้สึกผิดเกี่ยวกับการเล่นพนันของตนเอง หรือรู้สึกกลัวในสิ่งที่จะตามมาภายหลังหรือไม่
การแปลผล
0 คะแนน คือ ไม่มีปัญหาการพนัน
1-2 คะแนน ความเสี่ยงต่ำ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการพนันเล็กน้อย และไม่รุนแรง
3-7 คะแนน ความเสี่ยงปานกลาง ควรลดการเล่นพนันลง
8 คะแนนขึ้นไป ความเสี่ยงสูง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลิกเล่นพนัน
อ้างอิงแบบประเมินโรคติดการพนันจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
หากไม่สามารถหักห้ามตนเองในการเล่นการพนันได้ และหนักขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าพบจิตแพทย์เนื่องจากอาจมีภาวะอันตรายแทรกซ้อนได้ เช่น ภาวะซึมเศร้า หรือเสี่ยงคิดฆ่าตัวตาย อาจต้องเข้ารับการบำบัด ประกอบกับพึ่งกำลังใจจากบุคคลรอบข้างในการรักษาด้วย แต่ด้วยเนื่องจากผู้ป่วยอาจไม่ได้ยอมรับว่าตนเองเป็นโรคติดกการพนัน การสังเกตจากคนรอบข้างจึงสำคัญ
โรคติดพนันนั้นสำคัญที่สิ่งเร้ากับตัวของเราเองหากเราเข้าใจในข้อเสีย และมีภูมิต้านทานมากพอในตนเอง การหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้จะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น