การขับถ่ายเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความใส่ใจ โดยเฉพาะการขับถ่ายของเสียที่ต้องฝึกให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย หากเกิดความผิดปกติขึ้นกับระบบขับถ่ายย่อมส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราทันที โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับ “อุจจาระร่วง”
"อุจจาระร่วง" (Diarrhoeal Diseases) คือภาวะที่ทำให้คนเราเกิดการถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำอย่างผิดปกติตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 1 วัน หรือมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นมูก หรือเลือดแม้เพียงครั้งเดียว โดยโรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย ปรสิต โปรโตซัว หรือพยาธิในลำไส้ที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร และน้ำดื่มที่ไม่สะอาด รวมถึงการไม่ล้างมือก่อนการรับประทานอาหาร และการใส่อาหารในภาชนะที่ไม่สะอาดอีกด้วย
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงจะมีอาการถ่ายเหลว 3 ครั้งขึ้นไป คลื่นไส้ อาเจียนบ่อย รับประทานอาหารไม่ได้ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และกระหายน้ำมากกว่าปกติ หากมีอาการมากกว่า 2 วัน มีไข้สูง หรือมีอาการปวดท้องรุนแรงควรรีบเข้าพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเป็นโรคเรื้อรัง และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้
โดยอาการอุจจาระร่วงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะสามารถหายเองได้ภายใน 6 วัน ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และดื่มเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำที่เสียออกไปจากร่างกาย โดยการละลายผง ORS (Oral Rehydration Salts) ในน้ำสะอาด เช่น น้ำต้มสุกที่ทิ้งไว้ให้เย็นแล้ว และคอยสังเกตดูสีปัสสาวะ หากมีสีเข้มแสดงว่ายังได้น้ำไม่เพียงพอควรพยายามดื่มน้ำเกลือแร่เพิ่มขึ้นอีก แต่หากมีอาการรุนแรง โดยเกิดภาวะช็อก หรือหมดสติควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที
การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การรักษาสุขอนามัยทั้งในการรับประทานอาหาร การเก็บอาหาร และการปรุงอาหาร ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หรือจับสิ่งของอื่น ๆ ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการวางอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง เพราะแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดี ควรเก็บอาหารในตู้เย็น หมั่นทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารทุกครั้ง และเลือกน้ำสะอาดไว้ปรุงอาหาร หรือไว้ดื่มกิน
โรคอุจจาระร่วงเป็นโรคที่มักจะเกิดจากการอุปโภคบริโภคที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรตระหนักถึงเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง
_____________________________________
แหล่งข้อมูลอ้างอิง