ประจำเดือน สัญญาณเตือนบอกโรคของสุภาพสตรี

หน้าแรก > รวมบทความสุขภาพ > ประจำเดือน สัญญาณเตือนบอกโรคของสุภาพสตรี

14 มิถุนายน 2565 • 131744 ครั้ง

ตามธรรมชาติของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์นั้น ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อที่ผนังมดลูกให้มีความหนาขึ้น เพื่อเตรียมการตั้งครรภ์ แต่ถ้ายังไม่มีการปฏิสนธิ เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะหลุดลอก และไหลผ่านทางช่องคลอดเป็นโลหิต เรียกว่า ประจำเดือน ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกๆ 21-35 วัน ครั้งละ 3-8 วัน ออกเป็นสีต่างๆ ได้แก่ สีแดงเข้ม สีน้ำตาล และสีดำ ร่วมกับอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ หน้าอกขยาย และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากมีอาการที่ผิดปกติจากที่กล่าวมาขณะเป็นประจำเดือน อาจเป็นสัญญาณเตือนบอกโรคของสุภาพสตรีได้

สีประจำเดือนที่ผิดปกติ

อย่างที่ทราบกันดีว่าสีประจำเดือนที่ปกตินั้น คือ สีแดงเข้ม สีน้ำตาล และสีดำ หากมีสีประจำเดือนที่แตกต่างจากนี้ สามารถบอกสัญญาณเตือนของโรค หรือภาวะร่างกายที่ผิดปกติ ได้แก่

สีชมพู หรือสีแดงจางๆ

เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่มีภาวะซีด หรือออกกำลังกายอย่างหนัก

สีแดงอมส้ม

เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด มักจะมีกลิ่นเหม็น และมีหนองปนประจำเดือนมา

สีแดงปนเขียวข้นๆ

เกิดจากการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน

สีแดงปนเทา

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักจะมีอาการคันร่วมด้วย

สีแดงเข้มจัด

มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะโลหิตจาง

ปริมาณประจำเดือนผิดปกติ

ปริมาณประจำเดือนที่ปกติในแต่ละรอบจะต้องไม่เกิน 80 cc. และมีการเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 2-3 ชั่วโมง

ปริมาณประจำเดือนมากกว่าปกติ

หากประจำเดือนมามากกว่า 8 วัน และสังเกตได้ว่าจะต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ ชั่วโมง แสดงว่าประจำเดือนมีมากกว่าปกติ เป็นสัญญาณเตือนบอกโรค และความผิดปกติของร่างกาย ได้แก่

โรคช็อกโกแลตซีสต์

โรคเยื่อบุในมดลูก

ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล

ภาวะเลือดจาง

การเกิดเนื้องอกในมดลูก

ปีกมดลูกอักเสบ

มะเร็งปากมดลูก

ปริมาณประจำเดือนน้อยกว่าปกติ

สามารถสังเกตได้จากสีประจำเดือนจางๆ เวลาเปลี่ยนผ้าอนามัย หรือประจำเดือนมาแบบกะปริดกะปรอย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

ภาวะใกล้หมดประจำเดือน

การใช้ยาคุมกำเนิด

โรคต่อมใต้สมองขาดเลือด

การตกไข่ สังเกตได้จากการมีประจำเดือนในช่วงกลางของรอบเดือน

รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ

ปกติแล้วประจำเดือนแต่ละรอบนั้น จะต้องไม่มาเร็วกว่า 21 วัน หรือมาช้ากว่า 35 วัน นับจากประจำเดือนรอบที่แล้ว หากประจำเดือนที่มาเร็ว หรือช้ากว่าเวลาดังกล่าว แสดงรอบประจำเดือนนั้นผิดปกติ หรือประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ สามารถบอกโรค และความผิดปกติของร่างกาย ได้แก่

โรคอ้วน

ภาวะเครียด

ความผิดปกติของต่อมใต้

ความผิดปกติของต่อมหมวกไต

โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์

การเกิดเนื้องอกในรังไข่

ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง

Menstruation

อาการปวดท้องรุนแรงขณะมีประจำเดือน

ปกติแล้วประจำเดือนแต่ละรอบนั้นจะมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งเกิดจากการหลั่งของสาร โพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก กล้ามเนื้อจึงมีการบีบตัว และหดเกร็ง ส่งผลให้มีอาการปวดท้องขึ้น แต่หากพบว่ามีอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนอย่างรุนแรง และบ่อยครั้ง ร่วมกับการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย สามารถบอกโรค และความผิดปกติของร่างกาย ได้แก่

การเกิดเนื้องอกในมดลูก

โรคช็อกโกแลตซีสต์

โรคเยื่อบุในมดลูกเจริญผิดที่

ประจำเดือนที่ผิดปกติอาจจะไม่เกิดจากโรคทางนรีเวชเพียงอย่างเดียว ยังสามารถเกิดจากพฤติกรรมของคุณผู้หญิงเอง เช่น ความเครียด การมีน้ำหนักตัวเยอะ หรือลดลงผิดปกติ ดังนั้นหากคุณผู้หญิงปรับพฤติกรรมเหล่านี้แล้ว แต่ประจำเดือนก็ยังผิดปกติอยู่ ควรทำการพบสูตินรีแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกวิธี

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

โปรแกรมสุขภาพสตรี

บทความล่าสุด

โรคประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน อาจทำให้หูหนวกได้หากปล่อยทิ้งไว้

20 พฤศจิกายน 2567 • 19963 ครั้ง

ปวดหัวข้างเดียว ใช่ไมเกรนหรือเปล่านะ ?

19 พฤศจิกายน 2567 • 20091 ครั้ง

มะเร็งต่อมลูกหมาก ภัยเงียบของคุณผู้ชายทุกคนที่ควรระวัง

13 พฤศจิกายน 2567 • 20213 ครั้ง

โรคไต ไม่ได้อยู่ไกลตัวเหมือนที่เราคิด

12 พฤศจิกายน 2567 • 20459 ครั้ง

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนควรระวัง "โรคมือ เท้า ปาก" ไว้ให้ดี

06 พฤศจิกายน 2567 • 20094 ครั้ง

โรงพยาบาลเพชรเวช

	2469/13,15 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ระหว่างแยก เอกมัย-คลองตัน แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
	1390
	ติดต่อเรา : info@petcharavej.com