ระบบของหมู่เลือดจะมีระบบสำคัญอยู่ 2 ระบบ คือระบบเอบีโอ ABO และ ระบบอาร์เอช Rh ซึ่งหมู่เลือดระบบ Rh ที่เป็นลบนั้น เป็นหมู่เลือดระบบพิเศษ จึงมีความสำคัญในเรื่องของการรับเลือดเพื่อการรักษาพยาบาล และการถ่ายทอดทางพันธุกรรมในหญิงตั้งครรภ์
หมู่เลือดอาร์เอช (Rh blood group) ประกอบไปด้วยแอนติเจนที่มีความสำคัญทางคลินิก 5 ชนิด คือ แอนติเจนดีใหญ่ D, แอนติเจนซีใหญ่ C, แอนติเจนอีใหญ่ E, แอนติเจนซีเล็ก c, แอนติเจนอีเล็ก e และแอนติเจนอื่น ๆ
แอนติเจนชนิดดีใหญ่ D เป็นแอนติเจนที่บ่งบอกชนิดของหมู่เลือด โดยจะแบ่ง 2 ชนิด คือ อาร์เอชบวก (Rh Positive) และอาร์เอชลบ (Rh Negative)
หมู่เลือดอาร์เอชบวก (Rh+ หรือ Rh Positive) หมายถึง ผู้ที่มีแอนติเจนดีใหญ่ D อยู่ที่ผิวของเซลล์เม็ดเลือดแดง พบได้ในกลุ่มคนไทยทั่วไป สามารถรับเลือดได้ทั้งชนิดอาร์เอชบวก และ อาร์เอชลบ
หมู่เลือดอาร์เอชลบ (Rh Negative - Rh-) หมายถึง ผู้ที่ไม่มีแอนติเจนดีใหญ่ D อยู่ที่ผิวของเซลล์เม็ดเลือดแดง เป็นสามารถรับเลือดได้แค่เพียงชนิดอาร์เอชลบเท่านั้น จึงนับว่าเป็นหมู่เลือดที่หายาก โดยเฉพาะประเทศไทยที่จะพบคนที่มีหมู่เลือดอาร์เอชลบ 3 ใน 1,000 คน
ผู้ที่มีหมู่เลือดอาร์เอชลบ Rh- หากต้องการรับเลือดในการรักษาพยาบาล จำเป็นต้องได้รับเลือดที่มีหมู่ Rh- ด้วยเหมือนกัน เพื่อป้องกันการกระตุ้นการสร้างแอนติบอดี ต่อ แอนติเจนชนิดดีใหญ่ D ในกรณีฉุกเฉิน
ผู้ป่วยที่มีหมู่เลือดอาร์เอชลบ Rh- ที่ยังไม่สร้างแอนติบอดี ต่อแอนติบอดีชนิดดีใหญ่ D สามารถรับโลหิตหมู่เลือดอาร์เอชบวก Rh+ ได้เพียงแค่ 1 ครั้ง เพราะการรับโลหิตใรหมู่เลือดอาร์เอชบวก Rh+ อีก ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ทำลายเม็ดเลือดแดง เป็นอันตรายสามารถทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
หากมารดามีหมู่โลหิตอาร์เอชลบ Rh- บิดามีหมู่โลหิตอาร์เอชบวก บุตรคนแรกที่เกิดมาจะไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด เพราะมารดาจะสร้างภูมิต้านทานเม็ดเลือดของบุตรขึ้น
หากมารดามีหมู่โลหิตอาร์เอชลบ Rh- บิดามีหมู่โลหิตอาร์เอชบวก ต้องการมีบุตรเพิ่มมากกว่า 1 คน ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพราะถ้าบุตรในครรภ์มีหมู่เลือดอาร์เอชบวก Rh+ ภูมิต้านทานที่มารดาได้สร้างขึ้นหลังคลอดบุตรคนแรกไปแล้ว จะไปทำลายเม็ดเลือดแดงของบุตรคนถัดไป ทำให้ทารกในครรภ์เกิดอาการตัวเหลือง ตาเหลือง และอาจเสียชีวิตในครรภ์ได้
อีกทั้งมารดายังต้องได้รับยา Rh immunoglobulin (RhoGAM) ยาชนิดนี้มีคุณสมบัติในการป้องไม่ให้มารดาสร้างแอนติบอดีที่ไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดของทารก หากเลือดของมารดา และทารกเกิดการผสมกันในช่วงเวลาระหว่างการตั้งครรภ์
ผู้ที่มียีน (DD) หรือชนิด (Dd) และมีแอนติเจนดีใหญ่ D บนผิวเม็ดเลือดแดง จะมีหมู่โลหิตเป็นอาร์เอชบวก Rh+
ผู้ที่มียีนชนิด (dd) เพราะไม่มีแอนติเจนดีใหญ่ D บนผิวเม็ดเลือดแดง จะมีหมู่โลหิตเป็นอาร์เอชลบ Rh- ซึ่งเกิดจาก
หากผู้ที่มีหมู่เลือดชนิดพิเศษ ควรติดต่อจากธนาคารเลือดในการขึ้นทะเบียนเป็นผู้บริจาคเลือดหมู่พิเศษ เพื่อทำการบริจาคเลือด ใช้รักษาพยาบาลผู้ป่วยที่จำเป็นที่จะต้องใช้เลือดหมู่พิเศษ อีกทั้งผู้ที่ต้องการวางแผนจะมีบุตรควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ และทำการตรวจหาความเข้ากันได้ของโลหิต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับบุตร
บทความที่เกี่ยวข้อง