ทำไมต้องตรวจหาภูมิคุ้มกัน หลังฉีดวัคซีนโควิด-19
ทำไมต้องตรวจหาภูมิคุ้มกัน หลังฉีดวัคซีนโควิด-19

การตรวจหาภูมิคุ้มกัน หลังจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดสแล้ว ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 4 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ด้วยปัจจัยทางด้านร่างกายของแต่ละบุคคล และประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิด บางกรณีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไม่สามารถป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้ ฉะนั้นแล้ว หลังจากฉีดวัคซีน 4 สัปดาห์ ควรที่จะตรวจหาภูมิคุ้มกันในร่างกายของท่าน

 

 

ฉีดวัคซีนครบ ก็ตรวจหาภูมิคุ้มกันได้?

 

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กลายพันธ์ุออกเป็นหลายสายพันธุ์ เช่น สายพันธ์ุเดลตา สายพันธุ์แลมบ์ดา และสายพันธ์ุเดลตาพลัส เชื้อวัคซีนสายพันธ์ุใหม่นี้มีอาณุภาพหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน จากที่มีอาการไอ มีไข้  ไม่ได้กลิ่น หรือสูญเสียการรับรสชาติ เมื่อติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆเหล่านี้ อาการที่กล่าวมาจะไม่แสดงออก อีกทั้งเชื้อโควิดสายพันธุ์เหล่านี้สามารถแพร่เชื้อกระจายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ควรที่จะตรวจหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อที่จะทราบถึงค่าภูมิคุ้มกันในร่างกาย และยังเป็นการวัดประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิดอีกด้วย

 

อ่าน : immune covid-19 test

 

 

วิธีตรวจภูมิคุ้มกันในร่างกาย หลังจากการฉีดวัคซีนโควิด-19

 

วิธีการตรวจภูมิคุ้มกันในร่างกาย หลังจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 มี 3 วิธี แต่ละวิธีสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม ในการวางแผนสุขภาพของแต่ละบุคคล

 

  • การตรวจหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 Covid-19 Neutralizing Antibody เป็นการตรวจภูมิคุ้มกัน เพื่อดูความสามารถในการยับยั้งเข้าสู่เซลล์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และตรวจหาเชิงคุณภาพของชนิด IgG และ IgM  วิธีนี้จะรายงานผลว่ามี หรือไม่มีภูมิคุ้มกันในร่างกาย และสามารถวัดเปอร์เซนต์การยับยั้งเชื้อโควิด-19 ที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ ระยะเวลาในการรอผลคือ 5 วันทำการการตรวจหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย หลังจากการฉีดวัคซีน

 

  • โควิด-19 ด้วยวิธี Quantiitative เป็นการตรวจหาเชิงปริมาณของภูมิคุ้มกันชนิด IgG ต่อส่วนของ Spike Protien สำหรับการตรวจด้วยวิธีนี้จะรายงานผลว่ามี หรือไม่มีภูมิคุ้มกันในร่างกาย ในหน่วยของ AU/ml ว่าในร่างกายมีภูมิคุ้มกันเท่าไหร่ สามารถรอผลตรวจเพียง 1 ชั่วโมง เท่านั้น

 

  • การตรวจหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยวิธี Rapid Screening Test คือ การตรวจเลือดเพื่อหาภูมิต้านทานเชื้อ SARS-CoV-2 การตรวจหาภูมิคุ้มกันเชิงคุณภาพชนิด IgM IgG โดยการตรวจแบบวิธีนี้จะรายงานผลว่ามี หรือไม่มีภูมิคุ้มกันในร่างกาย

 

 

Rapid Screening Test

 

 

ข้อควรปฏิบัติ เมื่อทราบผลตรวจ

 

  • ผลตรวจออกมาเป็น > 0.8 U/mL  แสดงว่า ภูมิคุ้มกันในร่างกายของท่านผู้ตรวจ มีการตอบสนองต่อวัคซีนโควิด-19 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ท่านไม่ควรที่จะละเลยในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพราะ ท่านเองก็สามารถติดเชื้อโควิดได้เช่นกัน ฉนั้นท่านที่มีผลตรวจออกมาเป็น > 0.8 U/mL ควรปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอลล์ และการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เป็นต้น

 

  • ผลตรวจออกมาเป็น < 0.8 U/mL แสดงว่า ภูมิคุ้มกันในร่างกายของท่านผู้ตรวจ ไม่มีการตอบสนองต่อวัคซีนโควิด-19 หรือกล่าวได้ว่า ภูมิลด ซึ่งอาจจะเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ภูมิคุ้มกันของท่านผู้ตรวจบกพร่อง หรือท่านผู้ตรวจอาจจะได้รับยาบางชนิดที่ไปกดภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นต้น ดังนั้นท่านที่มีผลตรวจออกมาเป็น < 0.8 U/mL ควรที่จะได้เข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง ถึงการไม่ตอบสนองต่อวัคซีนโควิด-19 ในร่างกายของท่าน ว่าควรที่จะได้รับการฉีดวัคซีนซ้ำหรือไม่

 

 

การตรวจหาภูมิคุ้มกัน หลังจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นทางเลือกในการวางแผนสุขภาพของท่านผู้ตรวจ เมื่อทราบผลตรวจแล้ว ท่านควรปฏิบัติตนตามผลตรวจ นอกจากนี้เมื่อท่านปฏิบัติตามผลตรวจ ท่านเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการลดการกระจายของเชื้อโควิด-19  ได้เช่นกัน

 

 


ติดต่อ ปรึกษา คำแนะนำ  การตรวจภูมิคุ้มกัน หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 

 

Line Offial : @petcharavej