มะเร็งรังไข่
มะเร็งรังไข่ โรคที่คุณสุภาพสตรีทุกคนไม่ควรนิ่งนอนใจ

 

มะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer) คือ โรคที่เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณรังไข่ หรือท่อนําไข่ อาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง หลังจากนั้นเซลล์มะเร็งมีการเจริญเติบโตขึ้น ขนาดใหญ่ และแพร่กระจายไปตามเยื่อบุช่องท้อง ทางเดินนํ้าเหลือง กระแสโลหิต รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุ้งเชิงกราน ปอด ตับ ซึ่งโรคนี้สามารถพบได้ในผู้หญิงทุกช่วงวัย

 

 

สาเหตุของมะเร็งรังไข่

 

  • มีประวัติสมาชิกภายในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็ง

 

ปัจจัยด้านอายุ

 

  • ปัจจัยด้านอายุ เช่น ประจำเดือนมาครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี และมีประจำเดือนหมดช้าหลังอายุ 55 ปี เป็นต้น

 

  • มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน

 

  • ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ หรือมีบุตรยาก

 

  • ได้รับฮอร์โมนทดแทน

 

  • การสูบบุหรี่ อาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งรังไข่บางชนิด

 

  • มีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคทางนรีเวช เช่น มะเร็งเต้านม เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้น 

 

 

มะเร็งรังไข่ มีอาการอย่างไร ? 

 

  • เบื่ออาหาร, อิ่มเร็ว

 

อาเจียน

 

  • คลื่นไส้, อาเจียน, น้ำหนักตัวลดลง

 

  • ท้องอืด, บวม, อาหารไม่ย่อย

 

  • มีอาการท้องเสียสลับท้องผูก

 

  • ปวดท้องน้อยหรือปวดในอุ้งเชิงกราน  

 

  • คลำเจอก้อนเนื้อบริเวณท้องน้อย

 

  • ปัสสาวะบ่อย

 

  • มีเลือดออกทางช่องคลอด

 

 

ระยะของมะเร็งรังไข่  

 

  • ระยะที่ 1 พบเซลล์มะเร็งกระจายอยู่บริเวณรังไข่ หรือท่อนำไข่ โดยที่ยังไม่มีการลุกลามออกไปที่อวัยวะส่วนอื่น โดยในระยะนี้หากมีการตรวจพบ แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อรักษาทันที  

 

  • ระยะที่ 2 เซลล์มะเร็งมีการกระจายไปยังบริเวณอุ้งเชิงกราน และเนื้อเยื่อรอบ ๆ รังไข่ ในระยะนี้จะยังไม่มีอาการใดแสดงออกมา

 

  • ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งกระจายไปยังบริเวณเยื่อบุช่องท้อง และต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง สามารถสังเกตได้เพราะหน้าท้องจะมีการขยายใหญ่ขึ้นผิดปกติ

 

  • ระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งมีการกระจายออกไปสู่อวัยวะอื่น เช่น ตับหรือปอด อย่างรวดเร็ว

 

 

การวินิจฉัยมะเร็งรังไข่

 

สอบถามอาการ

 

  • แพทย์จะซักประวัติสอบถามอาการ รวมทั้งบุคคลในครอบครัว หลังจากนั้นจะทำการตรวจหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น

 

  • การตรวจภายในช่องคลอด เพื่อดูขนาดของรังไข่ และของเหลวที่อาจจะอยู่ภายในท้อง

 

  • ตรวจโลหิต เพื่อหาค่าบ่งชี้มะเร็งรังไข่ หรือวัดปริมาณสารบ่งชี้มะเร็ง เช่น ฮอร์โมน HCG และการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ

 

  • การตรวจหาความผิดปกติของพันธุกรรม โดยใช้ตัวอย่างเลือดเพื่อหาการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 และ BRCA2

 

  • การตัดชิ้นเนื้อ เป็นการตัดเนื้องอกระหว่างผ่าตัด หลังจากนั้นจะนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งหรือไม่ 

 

  • การตรวจด้วยรังสี เช่น การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หรือการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อดูการแพร่กระจายของโรค 

 

  • การส่องกล้องแลปพาโรสโคป เพื่อตรวจหาเนื้อเยื่อในอุ้งเชิงกราน หลังจากนั้นจะมีการเก็บตัวอย่างเนื้องอก เพื่อนำไปวินิจฉัย

 

 

การรักษามะเร็งรังไข่

 

  • รักษาโดยการใช้ยา เช่น ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy) จะออกฤทธิ์ทำให้เซลล์มะเร็งตาย

 

  • เคมีบำบัด เป็นการกำจัดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะที่ 3 

 

  • การฉายรังสี เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งในรังไข่ เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้

 

  • การผ่าตัด เป็นการตัดเซลล์มะเร็งบริเวณรังไข่, ปีกมดลูก หรืออวัยวะข้างเคียงออก ถ้าหากมีการแพร่กระจายไปยังบริเวณนั้น เช่น ต่อมน้ำเหลือง มดลูก เป็นต้น

 

 

การป้องกันมะเร็งรังไข่

 

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์จากวัตถุดิบและกรรมวิธีที่ปลอดภัยจากการเกิดมะเร็ง

 

ออกกำลังกาย

 

  • ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

 

  • ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนใช้ยา สมุนไพร หรืออาหารเสริมต่าง ๆ โดยเฉพาะยาคุมกำเนิด

 

  • ควรเข้ารับการตรวจภายในและพบสูตินรีแพทย์อย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อปี เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งรังไข่ เพราะมะเร็งรังไข่ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการใดออกมา

 

 

มะเร็งรังไข่ เป็นอีกหนึ่งโรคมะเร็งที่คุณสุภาพสตรีทุกท่านควรระวังไว้ เพราะความอันตรายของโรคนี้ คือ จะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาในช่วงระยะแรก หากรู้ตัวอีกทีอาจจะมีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปสู่อวัยวะอื่นแล้ว โดยวิธีป้องกัน คือ การเข้ารับการตรวจภายในกับสูตินรีแพทย์อย่างน้อย 1 ครั้ง/ปี หากพบเซลล์มะเร็งในระยะแรก จะได้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที



 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

สูตินรีเวช

 

โปรแกรมสุขภาพสตรี

 

เป็นผู้หญิงนั้นไม่ง่าย

 

ปวดท้องน้อย อาการเตือนของโรคนรีเวช