ข่มขืน คุกคามทางร่างกาย แต่บอบช้ำไปถึงจิตใจ
ข่มขืน คุกคามทางร่างกาย แต่บอบช้ำไปถึงจิตใจ

ปัญหาสังคมในปัจจุบันที่มักจะได้ยินผ่านข่าวมาเป็นเวลานาน แต่กลับยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังคงหนีไม่พ้นเรื่อง “การข่มขืน” ซึ่งเรามักจะได้ยินข่าวประเภทนี้บ่อย ๆ โดยคนที่เป็นเหยื่อมักจะเป็นเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ และที่น่าตกใจยิ่งไปกว่า คือ การล่วงละเมิดทางเพศนั้นมักจะมาจากบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลใกล้ชิดมากกว่าคนแปลกหน้าเสียอีก ปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อเหยื่อทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจที่ใช้เวลานานในการเยียวยา

 

คนไว้ใจร้ายที่สุด

 

สังคมไทยมักจะให้ความสำคัญกับญาติพี่น้อง โดยมีการเรียงลำดับญาติกันอย่างจริงจัง รวมถึงมีวันครอบครัวเพื่อสนับสนุนให้บุคคลในครอบครัวรักใคร่กลมเกลียวกัน แต่ความ “รัก” บางครั้งก็กลับกลายเป็นความ “ใคร่” ที่ต้องมีเด็ก หรือผู้หญิงเป็นผู้ถูกกระทำเสมอ เรามักจะเข้าใจว่าเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศมักจะต้องเกิดขึ้นในที่เปลี่ยว เวลากลางคืน แต่ในความเป็นจริงแล้วเหยื่อมักจะถูกกระทำโดยบุคคลที่รู้จัก หรือคุ้นเคย เช่น พ่อแม่ ญาติ คุณครู เป็นต้น นั่นเท่ากับว่าสิ่งที่เคยเรียนรู้มาในอดีตไม่สามารถนำมาใช้ได้ในปัจจุบันอีกต่อไป เพราะบุคคลเหล่านี้มักจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าใกล้เหยื่อเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ  ดังนั้นผู้ปกครองควรใส่ใจ และคอยดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เรื่องอันเลวร้ายนี้เกิดขึ้นในครอบครัวของตนเอง

 

ปัจจัยเสี่ยงถูกล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก

 

  • เด็กเล็กที่ไม่สามารถพูดสื่อสารได้
  • เด็กที่มีพัฒนาการบกพร่อง
  • เด็กที่มีความพิการทางร่างกาย
  • เด็กที่อาศัยอยู่กับบิดา หรือญาติที่เป็นผู้ชายเพียงลำพัง

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ

 

แม้เด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอาจจะได้รับการข่มขู่จากคนร้ายว่าไม่ให้บอกผู้ปกครอง แต่เราสามารถสังเกตพฤติกรรมของเด็กได้ ดังนี้

  • เด็กมีบาดแผล หรือรอยฟกช้ำตามร่างกาย และบริเวณอวัยวะเพศ
  • เด็กมีอาการหวาดกลัว ซึมเศร้า วิตกกังวล เก็บตัว ไม่ยอมออกไปพบปะเพื่อน หรือไม่สุงสิงกับใคร
  • เด็กมีความคิดอยากทำร้ายร่างกายตัวเอง
  • เด็กมีอาการนอนไม่หลับ ฝันร้าย
  • เด็กอาจหนีออกจากบ้าน หรือกลัวการกลับบ้าน
  • การเรียนแย่ลง หรือไม่สนใจการเรียน

 

ปมลึกฝังใจ ยากแท้เยียวยา

 

ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศมักจะโทษตัวเองว่าเป็นตัวต้นเหตุ ทำให้รู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยด้อยค่า หัวใจแตกสลาย และสังคมมักจะโทษว่าปัญหาข่มขืนมาจากผู้หญิง ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดจากการกระทำของผู้ชายที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เมื่อเหยื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ก็จะมีความคิดฝังใจจนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเต็มที่ ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นหวาดกลัวทุกสิ่งทุกอย่างจนไม่สามารถออกไปพบปะผู้คนได้

 

ข่มขืน

 

สาเหตุของการก่อเหตุ

 

หลังจากที่เราได้ทราบสาเหตุ และปัจจัยเสี่ยงของผู้ที่ถูกล่วงละเมิดกันแล้ว เรามาทำความเข้าใจทางฝั่งผู้กระทำกันบ้างว่าเหตุใดถึงได้ก่อเหตุนั้น โดยปัจจัยที่ทำให้ผู้กระทำก่อเหตุ มีดังนี้

  • ภูมิหลังครอบครัว เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดพฤติกรรมข่มขืน ได้แก่ ได้รับการเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลยจนไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนด้านสังคม และศีลธรรม การได้รับการเลี้ยงโดยใช้ความรุนแรงจากบิดา มารดา หรือบิดา มารดามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง
  • คนรักตีจาก ภรรยานอกใจทำให้มีอารมณ์เก็บกด และพฤติกรรมก้าวร้าว
  • สารเสพติด ผู้ก่อเหตุบางรายอาจใช้สารเสพติดจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
  • การโกรธแค้นผู้หญิง คนร้ายอาจมีปมฝังที่ผู้หญิงที่ทำให้อกหัก
  • สิ่งแวดล้อม การเห็นว่าสิ่งแวดล้อมเอื้ออำนวย หรือเลียนแบบพฤติกรรมของผู้อื่น

 

ความปลอดภัยเป็นพื้นฐานความต้องการของมนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศเป็นการคุกคามทั้งทางร่างกาย และจิตใจ การดูแลเอาใจใส่บุตรหลานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เหตุการณ์อันเลวร้ายดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตนเองนั่นเอง

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง