Shift Work ความเสี่ยงของผู้ที่ทำงานเป็นกะได้รับผลกระทบ
Shift Work ความเสี่ยงของผู้ที่ทำงานเป็นกะได้รับผลกระทบ

Shift Work คำในภาษาอังกฤษที่แปลเป็นไทยว่า ทำงานเป็นกะ คือ  ผู้ที่ทำอาชีพนี้จะมีวงจรนาฬิกาชีวิตที่แตกต่างผิดแปลกจากคนอื่น ต้องนอนตอนกลางวัน เข้างานกลางคืน ในอนาคตจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เพราะกระบวนการของเซลล์ประสาท ฮอร์โมน เอนไซม์ในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บ รายรับที่ได้อาจไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องเสียไปในภายภาคหน้า

 

 

อาชีพที่ต้องทำงานเป็นกะกลางคืน

 

  • แพทย์ฉุกเฉิน

 

  • พยาบาล

 

  • คนขับรถแท็กซี่

 

  • ธุรกิจร้านอาหารบางประเภท

 

  • งานในสถานบันเทิงต่าง ๆ

 

  • ตำรวจ

 

  • ทหาร

 

  • พนักงานรักษาความปลอดภัย

 

  • สื่อสารมวลชนเกี่ยวข้องกับข้อมูลต่างประเทศ

 

  • นักบิน แอร์โฮสเตส สจ๊วต

 

  • วิศวกรระบบรางโดยเฉพาะรถไฟฟ้าหรือใต้ดิน

 

  • ผู้ดูแลและแก้ไขปัญหาระบบคอมพิวเตอร์หรือแอปพลิเคชัน

 

 

ยามตรวจกล้องวงจรปิด

 

 

สุขภาพของผู้ที่ทำงานเป็นกะ

 

ผลกระทบในระยะสั้น

 

  • รู้สึกอ่อนเพลีย

 

  • เหนื่อยล้า

 

  • นอนหลับไม่สนิท

 

  • ตื่นมาไม่สดใส

 

  • ขาดวิตามิน D

 

  • ใบหน้าแห้งเหี่ยว หย่อนคล้อย

 

  • สมรรถภาพการทำงานลดลง

 

  • อาจเกิดอุบัติเหตุ

 

  • อวัยวะในระบบทางเดินอาหารมีปัญหา

 

ความเสี่ยงในระยะยาว

 

  • เครียดเรื้อรัง

 

  • ตาล้า

 

  • ภาวะอ้วน

 

  • เบาหวาน

 

  • ความดันโลหิตสูง

 

  • หัวใจวาย

 

  • หลอดเลือดสมองตีบ แตก

 

  • ความจำเสื่อม

 

 

ทำงานเป็นกะนอนไม่หลับ

 

 

ทำงานเป็นกะดูแลตนเองอย่างไร

 

เวลานอนหลับ

 

  • ไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง

 

  • จัดห้องนอนไม่ให้มีเสียงรบกวนและแสงสว่างจนเกินไป

 

รับประทานอาหาร

 

  • ครบ 3 มื้อ ทุกวัน

 

  • ปริมาณที่พอดี

 

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันสูง

 

  • ไม่บริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน

 

อื่น ๆ

 

  • ออกกำลังกาย

 

  • ผ่อนคลายความเครียด

 

  • พูดคุยกับบุคคลรอบข้าง ทั้งเพื่อนร่วมงาน สมาชิกในครอบครัว

 

 

มีปัญหาปรึกษาหัวหน้า

 

 

ทำงานเป็นกะปรับตัวอย่างไร

 

เป็นเรื่องยากที่บุคคลปกติใช้ชีวิตตามวงจรนาฬิกาธรรมชาติ ตื่นตอนเช้าเข้านอนตอนกลางคืน ต้องมาทำงานในเวลาตรงข้ามกัน โดยเฉพาะช่วงระยะแรกจะต้องปรับตัวทำกิจกรรมในชีวิตอย่างผิดเวลา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจได้ เพราะการทำงานมันไม่ได้มีปัญหาแค่เพียงเรื่องเดียว ยิ่งสะสมความเครียดเยอะ โรคซึมเศร้าหรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างจะแย่ลงได้ เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจอะไรควรปรึกษาผู้บังคับบัญชา หากทำงานกะแรกช่วงเช้า ต่อไปควรเลือกในเวลาบ่ายจนถึงดึก ไม่ควรเปลี่ยนเป็นดึกถึงเช้า เพราะร่างกายควบร่างกายจะเริ่มชินกับเวลานอนใหม่ 1 สัปดาห์ อีกทั้งการควบกะ จะต้องไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อวันในการทำงาน เพราะความเหนื่อยล้า ง่วงที่สะสมมา อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางจราจรจากการหลับในได้

 

 

ลองคิดดูว่าไม่มีผู้ที่ทำงานในช่วงกลางคืนจะเป็นอย่างไร เมื่อไร้พนักงานรักษาความปลอดภัยที่คอยสอดส่องดูแลในหมู่บ้าน คอนโด ช่วงที่เราหลับใหล หากป่วยกลางดึกแล้วไม่มีแพทย์หรือเจ้าหน้าที่มาบริการจะหายเองหรือไม่ ดังนั้นทุกอาชีพที่สุจริตล้วนมีความสำคัญและน่ายกย่องทั้งสิ้น มากไปกว่านั้นเป็นเรื่องของสุขภาพที่จะต้องดูแลให้ดี ไม่ว่าจะทำงานช่วงเวลาใด ควรมาตรวจร่างกาย เพื่อวิเคราะห์ว่าเหมาะสมกับหน้าที่ ตำแหน่งที่ได้รับ เพราะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของงานและการดำรงชีวิต 

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

ขอใบเสนอราคาสำหรับองค์กรหรือบริษัท อีเมล : marketing@petcharavej.com หรือสอบถามช่องทาง Line : @petcharavej คลิก



 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

 

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

 

 

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน