ตากุ้งยิง
เจ็บ ๆ คัน ๆ มีตุ่มคล้ายสิวที่เปลือกตา อาจเป็นอาการของตากุ้งยิง

 

ตากุ้งยิง (Stye) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Staphylococcus Aureus) ที่บริเวณเปลือกตา จนอักเสบเป็นตุ่มบวมแดงคล้ายสิว อาจทำให้รู้สึกเจ็บ คัน และระคายเคืองที่บริเวณเปลือกตา สามารถหายเองได้แม้ไม่ได้รับการรักษา แต่การดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ตากุ้งยิงหายเร็วขึ้นได้ 

 

 

สาเหตุของตากุ้งยิง

 

สัมผัสดวงตาด้วยมือที่ไม่สะอาด

 

  • การสัมผัสกับดวงตาด้วยมือที่ไม่สะอาด

 

  • การสวมใส่คอนแทคเลนส์โดยไม่รักษาความสะอาดอย่างเหมาะสม

 

  • การล้างเครื่องสำอางออกไม่หมด และล้างไม่สะอาด 

 

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น 

 

  • ผู้ที่มีภาวะเปลือกตาอักเสบเรื้อรัง 

 

 

อาการของตากุ้งยิง

 

  • เจ็บ, คัน หรือระคายเคืองบริเวณเปลือกตา

 

  • รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตา 

          

  • มีตุ่มบวมแดง, เปลือกตาบวม, ตาแดง

 

  • อาจจะมีน้ำตาไหล หรือขี้ตาเพิ่มขึ้น 

           

  • ในบางกรณี อาจมีฝีหรือหนองเกิดขึ้นภายใน 4-5 วัน

 

 

ประเภทของตากุ้งยิง

 

ตากุ้งยิงภายนอก

 

  • ตากุ้งยิงภายนอก (External Hordeolum) เกิดที่บริเวณภายนอกขอบเปลือกตา มีตุ่มบวมจนเกิดการอักเสบเป็นหัวหนอง มักเกิดขึ้นที่รูขุมขนของดวงตา

 

  • ตากุ้งยิงภายใน (Internal Hordeolum) เกิดขึ้นที่ด้านในของเปลือกตา ทำให้มีตุ่มบวมขึ้น เกิดจากต่อมไมโบเมียนติดเชื้อ หากต่อมนี้อุดตัน จะเกิดเป็นซีสต์ หรือถุงน้ำติดเชื้อได้

 

 

ภาวะแทรกซ้อนจากตากุ้งยิง

 

เมื่อเกิดตากุ้งยิงขึ้น อาจทำให้มีอาการป่วยอื่นตามมาได้ แต่มักจะไม่รุนแรง เช่น

 

  • ภาวะคาลาเซียน ซึ่งจะมีอาการเป็นตุ่มนูนแข็ง แต่จะไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้น

 

  • การอักเสบที่บริเวณเนื้อเยื่อของเปลือกตา เกิดจากการติดเชื้อและมีการแพร่กระจายสู่เนื้อเยื่อรอบดวงตา อาจทำให้เปลือกตามีอาการบวมแดง เป็นต้น 

 

 

การรักษาตากุ้งยิง

 

  • ตากุ้งยิง สามารถหายเองได้ภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ โดยไม่จำเป็นต้องรักษา

 

  • ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณดวงตาประมาณ 5-10 นาที จำนวน 3-4 ครั้ง/วัน จะช่วยให้เกิดการระบายหนองออกไปได้เร็วขึ้นและลดอาการบวมลง

 

  • หากมีอาการปวด และเปลือกตาบวมมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะ และการเจาะระบายหนองออก

 

  • หลีกเลี่ยงการบีบหรือเจาะตุ่มหนองด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เชื้อแพร่กระจายและเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น

 

 

การป้องกันตากุ้งยิง

 

  • หลีกเลี่ยงการขยี้ดวงตา เพื่อลดโอกาสในการนำเชื้อโรคเข้าสู่ดวงตา 

 

  • ล้างมือให้สะอาดก่อนจะจับบริเวณดวงตา

 

ล้างเครื่องสำอางให้สะอาด

 

  • ล้างเครื่องสำอางออกจากหน้าให้สะอาด และไม่ควรแต่งหน้าทิ้งไว้เป็นเวลานาน

           

  • รักษาและทำความสะอาดคอนแทคเลนส์อยู่เสมอ

         

  • หลีกเลี่ยงการถูกฝุ่น และควันต่าง ๆ โดยการใส่แว่นตา และหมวก

 

 

หากท่านสงสัยหรือมีอาการเข้าข่ายว่าจะเป็นตากุ้งยิง ควรเข้าปรึกษากับจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย รักษา และคำแนะนำในการดูแลดวงตาที่เหมาะสม



 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 

 

คลินิกจักษุ

 

ล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าไม่สะอาด เสี่ยงดวงตาติดเชื้อ