ทุกวันนี้เทคโนโลยีด้านการแพทย์มีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้ความสะดวกในการดูแลรักษาคนไข้ ส่งผลให้ศักยภาพด้านการรักษาโรคต่าง ๆ มีมากขึ้นกว่าในอดีต หนึ่งในนั้นคือ "เครื่อง CT Scan" เครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวินิจฉัยโรค และสามารถทำได้อย่างละเอียดและแม่นยำ แต่ยังมีผู้คนมากมายที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับเครื่องตรวจชนิดนี้ว่า “เป็นสาเหตุหลักของมะเร็ง”
เทคโนโลยีนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวินิจฉัยโรค และความผิดปกติของร่างกาย ด้วยการฉายรังสีเอกซเรย์ไปยังบริเวณที่ต้องการตรวจบนร่างกาย เพื่อดูอวัยวะภายในและทำการวินิจฉัยโรคหรือใช้ในการติดตามโรคที่เป็นอยู่ต่อไป เครื่อง CT Scan จะให้รายละเอียดของภาพมากกว่าการเอกซเรย์แบบธรรมดาทั่วไป โดยทางโรงพยาบาลเพชรเวชได้ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงชนิด 128 สไลด์ หรือ CT 128 Slices เป็นเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง สามารถสแกนได้เร็วถึง 128 ภาพ ต่อการหมุน 1 รอบ โดยใช้เวลาไม่เกิน 0.5 วินาที
โรคในสมอง เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัย ภาวะเลือดออกในสมอง เส้นเลือดในสมองทั้งอุดตันและเส้นเลือดแตก การติดเชื้อหรืออักเสบของเนื้อเยื่อ เนื้องอก มะเร็ง กระดูกแตกร้าว เป็นต้น
โรคบริเวณทรวงอก เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยขนาดก้อนในปอด ภาวะติดเชื้อหรืออักเสบของเนื้อเยื่อ เส้นเลือดปอด เส้นเลือดแดงใหญ่ เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ การทำงานของหัวใจ ลิ้นหัวใจ ความจุของปอด ปริมาณน้ำในปอด เป็นต้น
โรคบริเวณช่องท้อง เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคในตับ ดูความผิดปกติของไขมันพอกตับ ลำไส้ตีบตัน หรือมีรู ไส้ติ่งอักเสบ ถุงน้ำดี การทำงานของไต นิ่วในไต นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ก้อนในมดลูก การอักเสบติดเชื้อในทุกอวัยวะ ภาวะกระดูกแตกร้าวต่าง ๆ เป็นต้น
โรคกระดูกต่าง ๆ เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคกระดูกได้หลากหลาย ทั้งร้าว แตก กดทับ ผิดรูป รวมถึงภาวะ วัณโรคกระดูก หรือมะเร็งกระดูกได้ เป็นต้น
โรคหลอดเลือด เครื่องสามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยสามารถดูได้ว่า หลอดเลือดมีความผิดปกติหรือไม่ มีการอักเสบหรือไม่ เป็นต้น
ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้สารทึบช่วยในการสแกน เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนขึ้นผู้ป่วยต้องนอนราบลงบนเตียงของเครื่องสแกน เตียงจะเคลื่อนเข้าไปจนส่วนที่ต้องการสแกนอยู่ตรงกับวงแหวน จากนั้นวงแหวนจะทำการฉายรังสีรอบตัวผู้ป่วย ในขณะที่เครื่องจะฉายภาพภายในร่างกายออกมาเรื่อย ๆ บางครั้งแพทย์จะให้กลั้นหายใจบ้าง ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ นอกจากนี้ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับแพทย์ได้ตามปกติผ่านทางเครื่องสื่อสารด้วยเสียง โดยการสแกนจะใช้เวลา 10-20 นาที หลังจากนั้นจะใช้เวลาในการวินิจฉัยจากข้อมูลที่ได้โดยอาจใช้เวลาหลายวัน ไปจนถึงหลายสัปดาห์เพื่อทราบผล
หลังจากได้รับการสแกนไปแล้วผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่หากผู้ป่วยได้รับยาเพื่อคลายความกดดันก่อนการสแกนไม่ควรขับยานพาหนะด้วยตนเอง นอกจากนี้กรณีที่ผู้ที่ใช้สารทึบช่วยในการสแกนแพทย์จะให้อยู่ดูอาการก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และควรดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อขับสารทึบแสงออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรใช้วิธีนี้หากไม่จำเป็น เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์
ไม่ควรทำการสแกนบ่อยเกินไปเนื่องจากอาจส่งผลต่อสุขภาพได้
หากผู้ใช้เป็นเด็กควรให้คำแนะนำและการเตรียมตัวเบื้องต้นก่อน
ต้องบอกข้อมูลโรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยา
อาจมีวัตถุแปลกปลอมที่รบกวนการแปลผล เช่น เครื่องประดับ
หากมีอาการผิดปกติหลังการสแกนควรเข้าพบแพทย์ทันที เช่น หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นคัน ปากบวม เป็นต้น
หลายคนกลัวการสแกนเนื่องจากเป็นการทำงานที่มีรังสีเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งจากการสแกนมีเพียง 1 ใน 2,000 หรือ 0.05 % เท่านั้น เนื่องจากการสแกนไม่จำเป็นต้องทำบ่อย และการสแกนมีปริมาณรังสีไม่มากอย่างที่ทุกคนคิด อย่างไรก็ตามโอกาสการเกิดมะเร็งจากรังสีนั้นจะเสี่ยงกับเด็กหรือผู้มีอายุน้อยมากกว่าผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงไม่ควรทำ CT Scan หลายครั้งควรทำในโอกาสที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น การสแกนด้วยวิธีนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าการเอกซเรย์ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ตามตารางด้านล่าง
โดยปกติราคาจะขึ้นอยู่กับจุดที่สแกน และรายละเอียดที่อยากทราบ ดังนั้นจึงควรติดต่อสอบถามราคากับทีมแพทย์ก่อนรับการสแกน อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลเพชรเวชยินดีรับสิทธิบัตรต่าง ๆ ที่ประชาชนพึงมีในการรักษาไม่ต่างกับโรงพยาบาลของรัฐเช่นกัน
ผู้ที่ตั้งครรภ์ควรเลือกการสแกนเป็นวิธีสุดท้าย และผู้ที่อายุยังน้อยไม่ควรทำการสแกนหลายครั้ง นอกจากนี้หากต้องสแกนควรทำตามคำแนะนำของแพทย์ และหากเกิดอาการผิดปกติภายหลังการสแกนควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที
____________________________________
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
วันเปิดทำการ : เปิดบริการทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : 24 ชม.
ตึก/ชั้น : A/2
เบอร์ติดต่อ : 1390